Sunday, October 31, 2010

ราอูลสุดเศร้าชาลเก้ทิ้งโอกาสทุบห้างยา


        ราอูล กอนซาเลซ ดาวยิงจอมเก๋า ชาลเก้ 04 เผยสุดเซ็งที่ขุนพล "ราชันสีน้ำเงิน" ขาดความนิ่งในกรอบเขตโทษในเกมพ่าย ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งที่มีโอกาสเยอะ และเล่นได้ดีกว่าชัดเจน พร้อมรับเป็นการออกสตาร์ตที่ยากสุดๆ และทีมยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเลย 

     ในช่วงครึ่งแรก ชาลเก้ มีโอกาสซัดตาข่ายทีมเยือนอย่างมากมาย และเล่นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ คลาส-แยน ฮุตเตลาร์ หัวหอกดัตช์ มีจังหวะจ่อๆ ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ ก่อนจะเป็น ซิดนี่ย์ แซม ยิงประตูชัยให้ เลเวอร์คูเซ่น ในนาทีที่ 65 ส่งผลให้ "ห้างขายยา" บุกมาคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ 
 
     อดีตเด็กปั้น เรอัล มาดริด เผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า "เราก็แค่ทำประตูได้ไม่คมพอ เราเป็นทีมที่ดี และมีโค้ชที่ดีด้วย มันเป็นการเริ่มต้นซีซั่นที่ยากสำหรับเรา เราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดเลยในการลงทำศึก
บุนเดสลีกา"
 
     สำหรับความปราชัยในนัดนี้ส่งผลให้พลพรรค "ราชันสีน้ำเงิน" ต้องหล่นมารั้งอยู่ในอันดับรองบ๊วยของตารางคะแนนลีกสูงสุดเมืองเบียร์ โดยมี 6 แต้มเท่ากับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ทีมอันดับสุดท้าย แต่ ชาลเก้ ยังมีประตูได้เสียดีกว่า

Leia mais...

ซิตี้ทุ่มไม่อั้นล่าตอร์เรส



        สื่อแดนผู้ดี ตีข่าว "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมทุ่มแหลกเพื่อตัดหน้าทุกทีมในการคว้าตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาร่วมทัพให้ได้ในปีหน้า หวังดึงมาแทน คาร์ลอส เตเวซ ที่ส่อแววย้ายออกจากทีม

     รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ เดอะ พีเพิ่ล ของอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เผยว่า มีการติดต่อจากสโมสร "เรือใบสีฟ้า" ไปยัง บาเอีย อินเตอร์เนชั่นเนล บริษัทให้คำปรึกษาของนักเตะถึงข้อเสนอที่พวกเขามีมาให้กับดาวยิงชาวสเปน
 
     สำหรับ ซิตี้ กำลังเสี่ยงที่จะเสีย คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ส่อเค้าจะย้ายออกจากทีมในปีหน้า ทำให้พร้อมจะทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว ตอร์เรส มาแทนที่
 
     แหล่งข่าวใกล้ชิดกับ ตอร์เรส เผยว่า "มันมีข้อเสนอที่จะทุ่มเงินมากกว่าเพื่อที่จะได้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของ เฟร์นานโด ซิตี้ ต้องการเตรียมพร้อมกับโปรเจ็กต์ใหม่กับ ตอร์เรส ให้เป็นดาวเด่นตัวหลักของพวกเขาในฤดูกาลหน้า พวกเขาหวังที่จะการันตีโอกาสในการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันตั้งแต่ต้นอีกครั้ง"

Leia mais...

ทายบอลพรีเมียร์ลีก

ทีมที่แข่งขัน
ผลที่คาด
ทีเด็ดสตาร์ซ็อคเกอร์
พรีเมียร์ลีก
 
โบลตัน - ลิเวอร์พูล 
1 - 1
โบลตัน ขยันเสมอ
ีแอสตันวิลล่า - เบอร์มิ่งแฮม
2 - 1
วิลล่า ข่มกว่าเยอะในช่วงหลัง จะชนะได้
นิวคาสเซิ่ล - ซันเดอร์แลนด์ 
1 - 1
แมวดำ ไม่ยอมตายน


 

Leia mais...

Saturday, October 30, 2010

ยูเว่เฉียบบุกเชือดมิลาน2-1หมาป่าเฮ2-0


        "ม้าลาย" ยูเวนตุส ฟอร์มเจ๋ง ยกพลบุกเชือด "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน พังคาสนามซาน ซิโร่ 2-1 เก็บสามคะแนนล้ำค่ามาครอง ขณะที่ "หมาป่า " โรม่า แจ่ม เปิดบ้านไล่ขย้ำ เลชเช่ 2-0 ในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคินวันเสาร์ที่30ต.ค.53 ที่ผ่านมา
ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
เอซี มิลาน 1 - ยูเวนตุส 2



      เอซี มิลาน ทำศึกบิ๊กแมตช์ด้วยการเปิดรัง ซาน ซิโร่ รอรับ ยูเวนตุส โดยเจ้าถิ่นยังคงใช้ 3 ประสานแดนหน้าเป็น โรบินโญ่, อเล็กซานเดร ปาโต้ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ส่วนทีมเยือนไม่มี มิลอส คราซิช ที่ติดโทษแบน แถมล่าสุด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เกิดเจ็บกระทันหัน ทำให้ต้องส่ง นิโกล่า เลกร็อตตาเย่ เล่นแทน เกมรุกฝากความหวังไว้กับ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่


       เริ่มเกมมา "ปีศาจแดง-ดำ" เกือบได้ประตูทันที ปาโต้ ไหลให้ อิบราฮิโมวิช ปั่นไซด์โป้งด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนสามเหลี่ยมดังสนั่น


       เจ้าบ้านได้โอกาสอีกครั้ง ปาโต้ จ่ายให้ อิบราฮิโมวิช จับหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงยัดที่เสาแรก แต่ มาร์โก สโตรารี่ พุ่งปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม


       "ม้าลาย" ตอบโต้บ้าง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ตัดบอลได้จาก อิบราฮิโมวิช ก่อนจ่ายให้ เดล ปิเอโร่ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบด้วยซ้าย กระนั้น คริสเตียน อับเบียติ ยังป้องกันเอาไว้ได้


       ยูเว่ มาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ เปาโล เด เชเญ่ โยนจากซ้ายให้ กวายาเรลล่า โหม่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสุดสวย ขึ้นนำ 1-0


       ผู้มาเยือนเริ่มได้ใจ เดล ปิเอโร่ โต้กลับลากบอลตั้งแต่กลางสนามเข้าไปซัดบริเวณหัวกระโหลก คราวนี้ อับเบียติ พุ่งปัดออกหลังทัน


       มิลาน ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนแรกตั้งแต่นาทีที่ 35 หลัง ดานิเอเล่ โบเนร่า มีอาการบาดเจ็บจากการที่หัวเข่าชนกับ เด เชเญ่ ทำให้ต้องส่ง อินยาซิโอ อบาเต้ ลงแทน ขณะที่ เด เชเญ่ เล่นไปได้สักพักก็ต้องเปลี่ยนตัวเหมือนกัน โดย ลุยจิ เดล เนรี่ ให้ ซิโมเน่ เปเป้ ลงแทน


       ท้ายครึ่งแรก ปาโต้ ครอสจากฝั่งขวาให้ อิบราฮิโมวิช โหม่งกดลงพื้น แต่ สโตรารี่ ยังไม่พลาดรับเอาไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก ยูเว่ ออกนำไปก่อน 1-0


       เปิดฉากครึ่งหลังเจ้าถิ่นบุกหนัก เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง แย่งบอลได้จาก เลกร็อตตาเย่ ก่อนจ่ายให้ อิบราฮิโมวิช ได้กดเต็มข้อไปติดบล็อก เฟลิเป้ เมโล่ หวุดหวิด


       อย่างไรก็ตาม กลับเป็น "เบียงโคเนรี่" มาบวกเพิ่มได้อีกเม็ดในนาทีที่ 65 กวายาเรลล่า โยนให้ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ตัวสำรอง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงวืด แต่ยังเก็บบอลไว้ได้ และคืนหลังให้ เดล ปิเอโร่ วิ่งเข้ามาซัดเสียบตาข่ายไม่เหลือ หนีห่างเป็น 2-0 และทำให้ "อาเล่" ทำลายสถิติ จามปิเอโร่ โบนิแปร์ติ ที่ซัลโวประตูในเซเรีย อา สูงสุดของสโมสร ที่จำนวน 179 ลูกเรียบร้อย


       พลพรรค "รอสโซเนรี่" ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเกมรุก อันเดรีย ปีร์โล่ จ่ายให้ โรบินโญ่ สับไกหลุดกรอบออกหลังไป


       ก่อนจบเกม 8 นาที มิลาน มาตีไข่แตกได้สำเร็จจากการที่ ลูก้า อันโตนินี่ เปิดจากซ้ายให้ "อิบรา" ขึ้นโขกไม่เหลือ จบเกม ยูเว่ บุกมาเฉือนชนะ 2-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตาราง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
มิลาน :
 คริสเตียน อับเบียติ; ดานิเอเล่ โบเนร่า (อินยาซิโอ อบาเต้ น.35), โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, อเลสซานโดร เนสต้า, ลูก้า อันโตนินี่; เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเดรีย ปีร์โล่, เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง (คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ น.70); โรบินโญ่; อเล็กซานเดร ปาโต้ (ฟิลิปโป้ อินซากี้ น.75), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ยูเวนตุส : มาร์โก สโตรารี่; มาร์โก ม็อตต้า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, นิโกล่า เลกร็อตตาเย่, เปาโล เด เชเญ่ (ซิโมเน่ เปเป้ น.41); เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, เฟลิเป้ เมโล่, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ฮอร์เก้ มาร์ติเนซ (โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ น.56); ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (อเมารี คาร์วัลโญ่ น.85)
สรุปผลการแข่งขัน
  • โรม่า ชนะ เลชเช่ 2-0

  • เอซี มิลาน แพ้ ยูเวนตุส 1-2

  • Leia mais...

    บาร์ซ่าดุถล่มเซบีย่า5-0,ราชันบุกยิง3-1นำฝูงต่อ


            บาร์เซโลน่า โชว์ดุ เปิดรังคัมป์ นู ถล่มเละ เซบีย่า ไม่ปราณี 5-0 เก็บสามแต้มเต็มไล่จี้ เรอัล มาดริด จ่าฝูงเหลือเพียงแค่คะแนนเดียว ขณะที่ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยังเจ๋งบุกอัด เอร์กูเลส 3-1 โรนัลโด้ ร้อนแรง กดเบิ้ล ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนที่ผ่านมา
    ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน  บาร์เซโลน่า 5 - เซบีย่า  0


    สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, กาตาลุนย่า 
    ผู้ชม: 85,000 คน 


          "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ได้ตัว ชาบี เอร์นานเดซ จอมทัพคนเก่งหายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาบงการเกมรุกร่วมกับ อันเดรส อิเนียสต้า ส่วนสามประสานในแดนหน้าให้ ลีโอเนล เมสซี่ ผนึกกำลังกับ ดาบิด บีย่า และ เปโดร โรดริเกซ


          ทางด้าน เซบีย่า คว้าชัยมา 3 นัดติดต่อกันแล้วในการเล่นทุกรายการ ไม่มี เฆซุส นาบาส ปีกจอมเลื้อยเจ็บข้อเท้า รวมทั้ง อันเดรส ปาล็อป นายทวารที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าต้องให้ ฆาบี บาราส ลงเฝ้าเสาแทน 


          ส่วน เฟร์นานโด นาบาร์โร่ ติดโทษแบน แต่ได้ตัว มาร์ติน คาซาเรส ลงเล่นในนัดนี้ได้ แม้เป็นผู้เล่นที่ยืมตัวมาจากบาร์ซ่า ก็ตามที โดยคู่หัวหอกวาง เฟรเดริก กานูเต้ ล่าตาข่ายคู่กับ หลุยส์ ฟาเบียโน่ 


          เปิดเกมขึ้นมาได้ 3 นาที บาร์ซ่า ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว เปโดร โรดริเกซ เปิดบอลจากกราบซ้ายมาหน้าประตู ฆาบี บาราส นายทวารเซบีย่า ปัดบอลมาเข้าทาง ลีโอเนล เมสซี่ โยกหาจังหวะก่อนซัดเน้นๆ บอลไปโดนตัวของ อันโตนิโอ ลูน่า โรดริเกซ ที่พยายามทิ้งตัวขวางเข้าประตูไปให้บาร์เซโลน่า นำก่อน 1-0 เป็นประตูที่ 6 ของเมสซี่ ในซีซั่นนี้ 


          ทีมเยือนเร่งแล้วมีโอกาสเหมือนกัน ค็อฟฟี่ โรมาริช จ่ายบอลแฉลบกองหลังบาร์ซ่า มาเข้าทาง หลุยส์ ฟาเบียโน่ ตวัดยิงผ่านเสาสองไปในนาทีที่ 9 


          เซบีย่า มีลุ้นตีเสมอในนาที 22 ดีเอโก้ เปร็อตติ พาบอลขึ้นทางขวาแล้วเปิดบอลข้ามฟากให้ ดีเอโก้ กาเปล แปด้วยซ้ายเน้นๆ ตรงตัว บิคตอร์ บัลเดส นายทวารเจ้าบุญทุ่ม 


          นาทีต่อมา บาร์ซ่า หนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ พลิ้วหลบผู้เล่นของเซบีย่า ไปได้ก่อนจ่ายออกขวาให้กับ ดาบิด บีย่า ลากบอลจี้เข้าหากองหลังแล้วล็อคเข้าเท้าซ้ายก่อนปั่นโค้งเสียบเสาสองงามหยด


          ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว เซบีย่า ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อับดูลาย กงโก้ แบ็คขวาทีมเยือนไปเหนี่ยว เปโดร โรดริเกซ ล้มลงเลยโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นเหลือง-แดง ถูกไล่ออกไป ครบ 45 นาทีแรก บาร์เซโลน่า นำ 2-0 


          เข้าสู่ครึ่งหลัง เซบีย่า ปรับแท็คติกถอด หลุยส์ ฟาเบียโน่ ออกแล้วส่ง ดีดิเย่ร์ โซโกร่า ลงมาเล่นแทน พร้อมทั้งให้ มูอามาดู ดาโบ ลงมายืนเป็นแบ็คขวาแล้วถอด ดีเอโก้ เปร็อตติ ออกมา 


          เกมของบาร์ซ่า ยังเหนือกว่าเยอะมาได้ประตูที่สามอีกในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ อันเดรส อิเนียสต้า ครอสบอลเข้ามาโดนสกัดไว้ได้ บอลมาทาง ค็อฟฟี่ โรมาริช จะโหม่งคืนหลัง ทว่าโดน ดาเนี่ยล อัลเวส แบ็คขวาเจ้าบ้านกระโดดแหย่เท้าชาร์จบอลเข้าประตูไปให้บาร์เซโลน่า นำสบาย 3-0 ซึ่ง อัลเวส ไม่ได้แสดงอาการดีใจแต่อย่างใดเพื่อเป็นการให้เกียรติสังกัดเก่าของเขาอย่าง เซบีย่า 


          หนึ่งชั่วโมงของเกม บาร์ซ่า เปลี่ยนเอา ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ลงมาเล่นแทน ชาบี เอร์นานเดซ พร้อมให้ โบยาน เกร์กิช ลงมาช่วยแนวรุกแทน เปโดร โรดริเกซ 


          บาร์ซ่า ยังไม่เพลาเกมบุกมาได้ประตูที่สี่อีกจากจังหวะที่เปิดบอลยาวจากหลังขึ้นหน้ามา ลีโอเนล เมสซี่ เบียดได้เหลี่ยมดีกว่า ดีเอโก้ กาเปล ก่อนที่ เมสซี่ จะลากบอลขึ้นหน้ามาด้วยความเร็วแล้วยิงด้วยซ้ายหักข้อบอลเรียดเสียบมุมประตูอย่างสวยงาม เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ช่วยให้เจ้าบ้านนำขาด 4-0 ในนาที 64 


          สองนาทีต่อมา เจ้าบุญทุ่ม เปลี่ยนเอา การ์เลส ปูโยล กัปตันทีมออกแล้วให้ อาเดรียโน่ คอร์เรอา ลงมาเล่นแทน ส่วน เซบีย่า ให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ หัวหอกตัวเก่งลงสนามแล้วถอด เฟรเดริก กานูเต้ ออกมาในนาที 70 


          หกนาทีต่อมา เนเกรโด้ หัวหอกเซบีย่า ได้บอลหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายถูกสกัดออกหลังไปได้ 


          ช่วงท้ายเกมทีมเจ้าถิ่นยังลำพองไม่เลิก มาบวกประตูเพิ่มอีกจากดาบิด บีย่า ครบ 90 นาที บาร์เซโลน่า ต้อน เซบีย่า ที่เหลือแค่ 10 คนไปกระจุย 5-0 เก็บสามแต้มเต็มไล่จี้ เรอัล มาดริด จ่าฝูงเหลือเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น 

     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
     บาร์เซโลน่า:
     บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม) (อาเดรียโน่ คอร์เรอา น.66), เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ (ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ น.60), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า - ลีโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า, เปโดร โรดริเกซ (โบยาน เกร์กิช น.60)
     สำรองไม่ได้ใช้: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - ติอาโก้ อัลกานตาร่า, เซย์ดู เกอิต้า, แม็กซ์เวลล์  
     เซบีย่า: ฆาบี บาราส - อับดูลาย กงโก้, มาร์ติน คาซาเรส, อเล็กซิส รูอาโน่, อันโตนิโอ ลูน่า โรดริเกซ - ดีเอโก้ เปร็อตติ (มูอามาดู ดาโบ น.46), ค็อฟฟี่ โรมาริช, เรนาโต้ ฟลอเรนซิโอ (กัปตันทีม), ดีเอโก้ กาเปล - เฟรเดริก กานูเต้ (อัลบาโร่ เนเกรโด้ น.70), หลุยส์ ฟาเบียโน่ (ดีดิเย่ร์ โซโกร่า น.46)
     สำรองไม่ได้ใช้ : ดานี่ ฆิเมเนซ (ผู้รักษาประตู) - ฌูเลียง เอสกูเด้, โฆเซ่ การ์ลอส, ลูก้า ชิการินี่
     ผู้ตัดสิน: ฆาเบียร์ ตูเรียนโซ่ อัลบาเรซ

    เอร์กูเลส 1 - เรอัล มาดริด 3


    สนาม : โฆเซ่ รีโก้ เปเรซ


          เอร์กูเลส ทีมน้องใหม่เปิดบ้านรับมือราชันชุดขาว จ่าฝูง นัดนี้เจ้าบ้านได้ดาวิด เทรเซเก้ต์ พ้นโทษแบนกลับมาประสานงานกับเนลสัน วัลเดซ ขณะที่ทีมเยือนยังเป็นนักเตะชุดเดิมๆ มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย และกอนซาโล่ อิกวาอิน คอยประสานงานเกมบุก


           สตาร์ตมาแค่ 3 นาทีเท่านั้น เจ้าบ้านได้ประตูออกนำ 1-0 โดยดาบิด กอร์เตส เติมเกมมาทางขวาแล้วเปิดไปหน้าประตู เทรเซเก้ต์ โขกย้อนทางแบบย้อยๆ ข้ามหัวอีเกร์ กาซียาส เข้าไปตุงตาข่าย


           พอเสียประตูชุดขาวเร่งเกมหนัก นาทีที่ 23 โรนัลโด้ ซัดจังหวะแรกจากหน้าเขตโทษติดเซฟฆวน กาลาตายุด บอลมาเข้าทางอิกวาอิน ซ้ำ ก็ยังเซฟได้อีก


           อีก 2 นาทีต่อมา เอร์กูเลส ก็น่าจะได้ลูกสองเหมือนกัน เป็นอีกครั้งที่บอลเปิดมาในเขตโทษ เทรเซเก้ต์ สอดไปโขกจ่อๆ ทว่ากาซียาส โชว์ความหนึบบล็อกบอลเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด


           เกมแลกกันสนุกแล้ว นาทีที่ 31 ชาบี อลอนโซ่ เก็บบอลหน้าเขตโทษแล้วกดด้ววยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเฉี่ยวคานไปคืบเดียว


           ให้หลังอีก 2 นาทีโอกาสของทีมเยือนมาอีกครั้ง อิกวาอิน ฉีกไปรับบอลทางกราบขวาแล้ววางไปที่เสาสอง โรนัลโด้ สอดมายิงมุมแคบแบบเน้นๆ ยังดีที่กองหลังเอร์กูเลส ช่วยกันบล็อกเอาไว้ได้ จากนั้นไม่มีอะไรเพิ่ม จบครึ่งแรก เอร์กูเลส นำ 1-0


           กลับมาเล่นครึ่งหลังแค่ 7 นาที เรอัล มาดริด ไล่ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่โรนัลโด้ ตะบันด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาบอลพุ่งตกพื้นจนกาลาตายุด รับบอลกระฉอก ดิ มาเรีย ปรี่เข้าซ้ำเน้นๆ เสียบใต้คานเข้าไป


           ราชัน ได้ใจแล้วเดินเกมอย่างหนัก นาทีที่ 62 ดิ มาเรีย เปิดบอลจากทางขวาให้โรนัลโด้ ถอยโขกบอลออกหลังไป


           เกมเป็นของทีมเยือนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอกาสแบบเน้นๆ เลย นาทีที่ 70 โอซิล เปิดลูกเตะมุมทางขวามาหน้าประตู เซร์คิโอ รามอส ยืนโหม่งแบบเน้นๆ ทว่าบอลไปตรงตัวกาลาตายุด อีก


           2 นาทีต่อมา อิกวาอิน พาบอลมาหน้าเขตโทษแล้วยิงปั่นด้วยขวาบอลโค้งหลุดเสาสองออกไปแค่วาเดียว


           หลังพยายามอยู่นาน เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1 นาทีที่ 82 ต้องชมมาร์เซโล่ ที่พาบอลเลาะทางซ้ายจนไปถึงสุดเส้นหลังแล้วหักกลับมาให้คาริม เบนเซม่า ตัวสำรองซัดเน้นๆ ติดเซฟกาลาตายุด ตบบอลมาเข้าทางโรนัลโด้ ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ


           เท่านั้นไม่พอ 4 นาทีต่อมา ทีมเยือนได้ลูก 3 รามอส เปิดทะลุช่องให้เบนเซม่า หลุดขึ้นทางขวาไปถึงเส้นหลัง แล้วไหลใส่พานให้โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาเสียบใต้คาน


           ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โรนัลโด้ น่าจะทำแฮตทริกได้ เพราะได้บอลหลุดเดี่ยว แต่ดันไปแตะบอลหนีกาลาตายุด จนมุมแคบแล้ววัดข้ามคานออกไป จบเกมเรอัล มาดริด บุกชนะ 3-1 ครองจ่าฝูงอีกหนึ่งสัปดาห์ 

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
    เอร์กูเลส :
     ฆวน กาลาตายุด - ดาบิด กอร์เตส, โนเอ้ ปามาโร่ต์, โรดรี้, ปาโก้ เปนญ่า - อเบล อากีล่าร์, มาติอัส ฟริตซ์เลอร์ - ติอาโก้ โกเมส, เนลสัน วัลเดซ (ฆาเบียร์ ปอร์ตีโย่ น.81), โอลิวิเย่ร์ โตแมร์ (เซนเดา น.50) - ดาวิด เทรเซเก้ต์ (ฟรานซิสโก้ รูเฟเต้ น.68)
    สำรองไม่ได้ใช้ : เปียต เวลตุนเซ่น - คริสเตียน กอนซาเลซ, ฆวนร่า, โตเต้
    เรอัล มาดริด :  อีเกร์ กาซียาส - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้ (คาริม เบนเซม่า น.76), ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล (อัลบาโร่ อาร์เบลัว น.83), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน (ราอูล อัลบิโอล น.83)
    สำรองไม่ได้ใช้ : เจอร์ซี่ ดูเด็ค - เซร์คิโอ กานาเลส, เปโดร เลออน, มาอามาดู ดิยาร์ร่า
    ผู้ตัดสิน : การ์ลอส กลอส โกเมซ

    สรุปผลการแข่งขัน
  • บาเลนเซีย เสมอ เรอัล ซาราโกซ่า 1-1

  • เอร์กูเลส แพ้ เรอัล มาดริด 1-3

  • บาร์เซโลน่า ชนะ เซบีย่า 5-0

  • Leia mais...

    จ่าแฮร์รี่ชี้เปาแคลตทำพลาดกรณีประตูปัญหานานี่


            แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ สเปอร์ส ชี้ชัดเปา มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ตัดสินพลาดเต็มๆ ที่ยอมให้ลูกยิงปัญหาของ นานี่ ปีกจอมลีลา แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นประตู เหน็บดาวเตะโปรตุกีสควรได้ใบเหลืองด้วยซ้ำ โทษฐานทำแฮนด์บอลจากจังหวะก่อนหน้า

         แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ชี้ขาดให้ลูกยิงปัญหาของ นานี่ ปีกจอมพลิ้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นประตู ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "ไก่เดือยทอง" บุกไปแพ้ "ปีศาจแดง" 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา


          เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 31 จากการโหม่งของ เนมานย่า วิดิช หลังจากนั้นในนาทีที่ 84 การเล่นที่ผิดพลาดของ เอเรลโญ่ โกเมส ผู้รักษาประตู สเปอร์ส ที่ปล่อยบอลออกจากมือแล้วไม่ยอมเล่นเลยส่งผลทำให้โดน นานี่ ฉกบอลไปยิงตุงตาข่ายเป็น 2-0 แม้ตอนแรกผู้กำกับเส้นยกธงว่า นานี่ ทำแฮนด์บอล และต้องให้เป็นลูกฟรีคิกของ สเปอร์ส แต่ แคลตเทนเบิร์ก ไม่เห็นด้วย เลยปล่อยให้เล่นต่อ โดยที่ปีกทีมชาติโปรตุเกสแอบอยู่ข้างหลัง โกเมส เลยฉวยโอกาสแย่งบอลไปยิงตุงตาข่ายในที่สุด


          เร้ดแน็ปป์ ไม่เห็นด้วยสุดๆ กับจังหวะนี้ พร้อมกับชี้ว่า แคลตเทนเบิร์ก ตัดสินพลาดมหันต์ ที่ไม่ยอมให้เป็นลูกแฮนด์บอลของ นานี่ โดยระบุว่า "มันเป็นการทำแฮนด์บอลชัดๆ และก็ต้องเป็นลูกฟรีคิกด้วย เขา (นานี่) เอามือเข้าไปหาบอลเอง เพราะฉะนั้น เขาจึงน่าจะโดนจดชื่อจากจังหวะนี้"


          "แน่นอน ผู้ตัดสินไม่เห็นว่า นานี่ ทำแฮนด์บอล นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงปล่อยให้เล่นต่อ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินมองเห็นในจังหวะนั้น เขาก็เลยยกธง เมื่อเขา (แคลทเทนเบิร์ก) วิ่งเข้าไปถามผู้ช่วยผู้ตัดสินว่า นานี่ ทำอะไร พวกเขาก็ควรที่จะยกเลิกประตูนี้สิ คุณจะให้ลูกแบบนี้เป็นประตูได้อย่างไร?" นายใหญ่ สเปอร์ส เอ่ย
     

          เมื่อถูกนักข่าวยิงคำถามใส่ว่า ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ประตูจากจังหวะนั้น ผลการแข่งขันจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า? "จ่าแฮร์รี่" ตอบกลับไปว่า "คุณไม่มีทางรู้ได้หรอก บางทีเราอาจจะมีโอกาสทำประตูอีกครั้ง แต่ถึงยังไงคุณไม่มีทางหยั่งรู้ได้แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะบอกได้"

    Leia mais...

    ฮิวจ์สโวเจ้าสัวฟอร์มสุดยอดในรอบปีเกมเชือดวีแกน


            มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ ฟูแล่ม โวสนั่น ลูกทีมโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในรอบปี ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่เปิดบ้านเอาชนะ วีแกน ระบุผู้เล่นในแนวรุกทางริมเส้นประสานงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ มาร์ค ชวาร์เซอร์ แทบจะไม่ต้องออกแรงป้องกันลูกอันตรายเลย 

          มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม ฟูแล่ม เชื่อลูกทีมได้ระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เปิดบ้าน คราเว่น ค็อตเทจ เอาชนะ วีแกน แอธเลติก แบบเบาะๆ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพียงชัยชนะนัดที่ 2 ในซีซั่นนี้ แต่ก็สามารถพาทีมขยับขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนได้สำเร็จ


          กุนซือวัย 46 ปี เผยกับ "สกายสปอร์ตส์" สถานีโทรทัศน์กีฬาของอังกฤษว่า "ผมดีใจมาก เราเล่นดีในซีซั่นนี้ และวันนี้เราเล่นได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในครึ่งแรก มันเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในปีนี้ ที่พูดนี่ก็เพราะว่า เราโชว์ฟอร์มได้ดีมาตลอดปีนี้ ดังนั้นผมดีใจที่เราขึ้นนำถึง 2-0 และเราทำได้ดีซึ่งคู่ควรต่อการได้รับคำชม ครึ่งหลัง วีแกน พยายามสร้างปัญหาให้กับเรามากขึ้น แต่เราก็ยังเล่นกันอย่างสบายๆ และ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ต้องออกแรงป้องกันน้อยมากในวันนี้ ดังนั้นผมคิดว่า ความมุ่งมั่นของเราในการลงเล่น รวมถึงความตั้งใจจริงของเรา ทำให้เราสมควรที่จะเป็นผู้ชนะในวันนี้"


          "เราเคลื่อนที่กันได้ยอดเยี่ยม เรามีการหมุนเวียนกันเล่นในพื้นที่แดนหน้ากันอย่างมากๆ สิ่งที่ผมต้องการในวันนี้คือ การเล่นในแดนของคู่แข่ง บางครั้งเราก็เสียประตูกันง่ายไปหน่อย เพราะเติมเกมรุกกันมากเกินไป แต่วันนี้เราครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จในแดนของ วีแกน และทำให้พวกเขาต้องพบกับความยากลำบาก"


          "ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ฟูลแบ็กของเราเติมขึ้นไปเปิดบอลได้อย่างสมบูรณ์แบบไปให้กับ คลิ้นท์ (เดมพ์ซี่ย์) ผมคิดว่า มัน (ชัยชนะ) เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา เราเล่นได้ดีและคู่ควรจะเก็บผลการแข่งขันได้ตามฟอร์ม สัปดาห์ที่แล้ว (เกมพ่าย เวสต์บรอมฯ 1-2) เราขาดผู้เล่นสำคัญ และผมเห็นถึงความแตกต่างในวันนี้ อย่างเช่น แดนนี่ (เมอร์ฟี่) ซึ่งเป็นผู้เล่นคนสำคัญ และ ไซม่อน เดวี่ส์ ที่มีประสบการณ์สูง และเมื่อผมมองไปยังความทุ่มเทที่เราแสดงให้เห็น มันเป็นการบ่งบอกว่า เราต้องการเก็บอะไรบางอย่างออกมาจากเกมนี้ อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ นี่คือฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในปีนี้" บอสชาวเวลส์ ทิ้งท้าย

    Leia mais...

    บิ๊กแซมหวังแข้งกุหลาบโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่อง


            แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือ แบล็คเบิร์น หวังให้นักเตะโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่อง เหมือนเกม พรีเมียร์ลีก ที่พ่ายหวิว เชลซี คารัง 1-2 เชื่อหากเล่นได้เช่นนี้ ทีมจะอยู่รอดปลอดภัยได้แน่ๆ รับรู้สึกเสียดายกับโอกาสทองของ เจสัน โรเบิร์ตส์ ที่ยิงหลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ ปีเตอร์ เช็ก พุ่งไปป้องกันผิดทางแล้ว 

         แซม อัลลาร์ไดซ์ ผู้จัดการทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส หวังให้ลูกทีมโชว์ฟอร์มดีให้ได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนใน


         เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด แม้ว่าจะเป็นฝ่ายพ่าย เชลซี คารัง 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่สนาม อีวู้ด พาร์ค ทั้งๆ ที่สร้างความประหลาดใจ ด้วยการออกนำไปก่อน 1-0 จากลูกโหม่งของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ในนาทีที่ 21 ก็ตาม 


          อัลลาร์ไดซ์ เผยกับ "สกายสปอร์ตส์ นิวส์" สถานีโทรทัศน์กีฬาของอังกฤษว่า "หากเราคงระดับการเล่นแบบนั้นได้ เราน่าจะปลอดภัย จากนั้นเราก็น่าจะเริ่มเก็บ 3 คะแนนได้ซะที มันทำใจยากที่เราต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เราจะต้องยอมรับมัน และสำหรับผมแล้วก็คงจะต้องให้กำลังใจนักเตะ และแสดงให้เห็นว่า พวกเขาทุกคนโชว์ฟอร์มได้ดีแล้วในวันนี้ ดังนั้นเราจะต้องปล่อยให้วันนี้ผ่านไป และไม่พยายามทำให้รู้สึกเสียกำลังใจ"


          "เราควรจะออกนำตั้งแต่ก่อนหน้านั้น (ประตูของ เอ็มวารูวารี) ไปแล้วด้วยซ้ำ ปีเตอร์ เช็ก โชว์การป้องกันที่ดีมากๆ ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่เราจะออกนำ เราสมควรที่จะขึ้นนำ 1 ประตู หรือเสมอ 1-1 ในช่วงครึ่งแรก ซึ่งไม่น่าจะเลวร้ายจนเกินไป แต่เราต้องมองว่า ผลการแข่งขันในเกมนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และโชคร้ายที่เราทำไม่สำเร็จ"


          "เรายังมีโอกาสทองจาก เจสัน (โรเบิร์ตส์) ผมคิดว่า เขาโชคร้ายมากๆ ที่ลูกนั้นไม่เป็นประตู เพราะ เช็ก ได้พุ่งไปป้องกันผิดทางแล้ว แต่มันก็หลุดกรอบไป นั่นคือความแตกต่าง เพราะพวกเขาได้โอกาสบุกขึ้นมาบ้างแล้วก็จบสกอร์ได้สำเร็จ"


          "การโชว์ฟอร์มได้ดีเป็นเรื่องที่ใช้ได้ แต่การปราศจากแต้มทำให้ชีวิตของเรายากลำบากขึ้นมาก เมื่อคุณมองดูอันดับในตารางของเรา คุณจำเป็นต้องทำอันดับให้พ้นโซนอันตราย เราควรจะอยู่ในอันดับ 13 หรือ 14 ในตอนนี้ แต่เรากลับอยู่ต่ำกว่านั้น ฟอร์มการเล่นแสดงให้เห็นว่า เราสมควรเก็บแต้มได้ แต่เราทำไม่สำเร็จ นั่นคือความเป็นจริง"  อดีตนายใหญ่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทิ้งท้าย

    Leia mais...

    ป๋าชี้โกเมสทำพลาดเองเกมแพ้ผีแดง


            เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำตัวเป็นลูกพี่ที่ดี ปกป้อง นานี่ ปีกตัวเก่งกับจังหวะทำประตูให้ทีมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมตำหนิผู้กำกับเส้น กับ เอเรลโญ่ โกเมส นายทวาร "ไก่เดือยทอง" ที่ทำผิดพลาด 

         เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคตรทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาตำหนิ เอเรลโญ่ โกเมส ผู้รักษาประตูเลือดแซมบ้า "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทำผิดพลาด จนโดน นานี่ ฉกบอลไปยิงประตู ในเกมที่ "ปีศาจแดง" ชนะ 2-0 ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา


          แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำในครึ่งแรก จากการโหม่งของ เนมานย่า วิดิช จากนั้นการเล่นที่ผิดพลาดของ โกเมส ที่ปล่อยบอลออกจากมือแต่ไม่ยอมเล่นเลยโดน นานี่ ฉกบอลไปยิงประตู แม้ตอนแรกผู้กำกับเส้นจะยกธงว่าเป็นลูกฟรีคิก แต่ มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ผู้ตัดสิน ปล่อยให้เล่นต่อ และปีกทีมชาติโปรตุเกสก็ลุกขึ้นมา ก่อนจะแย่งบอลไปทำประตูในที่สุด


          สำหรับจังหวะดังกล่าว เซอร์ เฟอร์กี้ ให้ความเห็นว่า จังหวะนั้นไม่ควรตำหนิ นานี่ แต่น่าจะต่อว่าผู้กำกับเส้น และ โกเมส มากกว่า "ผู้กำกับเส้นไม่ได้ยกธงจนกระทั่งหลังจากที่ได้ประตูไปแล้ว ซึ่งเขาทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ผู้ตัดสินไม่ได้เป่านกหวีดเลย และ นานี่ ก็อยู่ด้านหลัง และกรรมการบอกให้เขาเล่นต่อ"


          "ดังนั้นสิ่งที่คุณจะทำนะเหรอ? คุณก็ต้องส่งบอลเข้าไปในตาข่ายนะสิ ผู้รักษาประตูของ สเปอร์ส น่าจะรู้เรื่องนี้ดี เขาเป็นโกล์ที่มีประสบการณ์ เขาน่าจะรู้ดีกว่าใครๆ ผมคิดว่า เขาทำให้เกิดความสับสน ผมคิดว่า มันต้องเป็นจุดโทษในจังหวะแรก แต่จากนั้นเราก็ไม่ได้จุดโทษ ทั้งที่ นานี่ โดนดึงแขนชัดๆ"


          บรมกุนซือ "ผีแดง" กล่าวต่อไปว่า "ผู้ตัดสินให้เล่นต่อ เพราะผู้รักษาประตูไม่ได้ครองบอล โกล์คงคิดเรื่องการเล่นลูกฟรีคิก เขาทำผิดพลาดเอง" เมื่อเจอคำถามว่า เขาเห็นใจ "ไก่เดือยทอง" หรือไม่ เรื่องนี้ เฟอร์กูสัน เผยว่า "ผมเข้าใจว่า พวกเขาผิดหวังมากๆ มันเป็นประตูที่ประหลาด ไม่มีใครรู้ว่าตอนนั้นเป็นจังหวะที่ผิดพลาด โกล์ต้องครองบอลเอาไว้อยู่ในแขนของเขา"


          นอกจากนี้ นายใหญ่เลือดวิสกี้ ยอมรับ พอใจกับฟอร์มของลูกทีมในแมตช์นี้ "ผมคิดว่า ครึ่งหลังเราเล่นได้ดีจริงๆ ผมรู้ว่าในครึ่งแรก เราทำให้ เอ็นวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงป้องกันประตูมากเกินไป แม้ว่าเราเล่นได้ดี และสร้างโอกาสได้หลายครั้ง ผมคิดว่า เกมนี้มันค่อนข้างเปิดจริงๆ หลังจากนำ 1-0 เราต้องปิดพื้นที่ และเราก็เล่นได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง"

    Leia mais...

    แม็คคาร์ธี่ชี้สมควรแล้วหมาป่าจมเรือใบ


            มิค แม็คคาร์ธี่ นายใหญ่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชี้ชัด สมควรสุดๆ กับชัยชนะ 2-1 เหนือ แมนฯ ซิตี้ ของทัพ "หมาป่า" ชมลูกทีมสมาธิไม่แกว่ง และสามารถกลับมาสู่เกมของตัวเองได้เร็ว หลังโดน "เรือใบสีฟ้า" สอยตาข่ายขึ้นนำไปก่อน 

         มิค แม็คคาร์ธี่ ผู้จัดการทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แสดงความเชื่อมั่นว่า ทีมตนมีความเหมาะสมทุกประการ กับการเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "หมาป่า" เปิดรัง โมลินิวซ์ กราวน์ด พลิกล็อกเชือด  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา
     

          เกมนี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตกเป็นฝ่ายตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ไปก่อน 0-1 เมื่อ "เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูในนาทีที่ 23 จากการสังหารลูกจุดโทษของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น วูล์ฟส์ ก็กลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ เมื่อซัดได้รวดเดียว 2 ประตู จาก เนนาด มิลิยาส ในนาทีที่ 30 และ เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ ในนาทีที่ 57 ก่อนที่จะจบเกมด้วยการชัยชนะ 2-1 พร้อมสะสมคะแนนเพิ่มขึ้นมาเป็น 9 แต้มแล้ว ถึงแม้ยังคงรั้งอันดับที่ 19 ก็ตาม 
     

          แม็คคาร์ธี่ วัย 51 ปี กล่าวอย่างชื่นมื่นว่า "พวกเขาเริ่มเกมกันได้แจ่มมาก แต่เมื่อพวกเขายิงลูกจุดโทษเข้าไป ผมก็คิดว่า มันก็แฟร์ดีแล้ว และเราก็ทำผลงานกันได้ดี ตอนนั้นเป้าหมายของเราคือ การเก็บ 1 คะแนน เล่นด้วยความใจเย็น พยายามไม่ให้เสียประตูเพิ่มอีก กลับมาสู่เกมให้ได้ ซึ่งผมก็คิดว่า เราตอบสนองกันได้ดีทีเดียว เราคู่ควรแล้วกับชัยชนะที่ได้รับในวันนี้ ผมคิดว่า ฟอร์มการเล่นของเรา และผลการแข่งขันที่ออกมานั้น ช่วยบ่งบอกผลงานของลูกทีมผมได้เป็นอย่างดีทีเดียว"

    Leia mais...

    พูลิสเซ็งสโต๊คโดนเปาปฏิเสธประตู


            โทนี่ พูลิส นายใหญ่ สโต๊ค รับผิดหวังสุดๆ ที่เปาไม่ให้ลูกยิงของ ตุนกาย ซานลี่ เป็นประตู แต่ยก เอฟเวอร์ตัน คว้าโอกาสที่มีได้ดี เลยเป็นฝ่ายซิวชัย 1-0 

         โทนี่ พูลิส ผู้จัดการทีม สโต๊ค ซิตี้ ออกมาเปิดใจว่า รู้สึกผิดหวังไม่น้อย ที่ผู้ตัดสิน ลี โปรเบิร์ต ไม่ยอมให้ลูกยิงเข้าไปตุงตาข่ายของ ตุนกาย ซานลี่ กองหน้าเลือดเติร์ก นาทีที่ 59 เป็นประตู ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่บุกไปพ่าย เอฟเวอร์ตัน 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา


          หลังจากนั้นในนาทีที่ 67 ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ก็ซัดประตูชัยให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เก็บ 3 คะแนนสำคัญ โดย พูลิส กล่าวอย่างเซ็งๆ ว่า "มันดูเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมและไม่มีปัญหาอะไร แต่มันกลับไม่เป็นใจสำหรับพวกเรา ถ้าคุณได้ดูจังหวะนั้น เบนส์ กำลังล้มลงแล้ว ตอนที่ ตุนกาย ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย หรือไม่ก็ เลห์ตัน เบนส์ กำลังล้มลงแล้ว ตอนที่โดนตัว ตุนกาย อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้ว พวกเขาสามารถฉกฉวยโอกาสของพวกเขาเองได้ และคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 1-0"
     

          "มันเป็นการตัดสินที่ห่วยแตกที่สุดอีกครั้งแล้ว แต่เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เราไม่สามารถบ่นอะไรได้หรอกกับจังหวะนี้ และไม่สามารถกล่าวโทษผู้ตัดสินได้ เราต้องตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของเราต่อไป และทำมันอย่างเหมาะสมด้วย แต่มันก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เช่นกัน หากการตัดสินมันไม่เป็นใจ ถ้าเราได้ประตูนั้นนะ ผมคิดว่า เราชนะเกมนี้แน่" นายใหญ่ สโต๊ค ตบท้าย

    Leia mais...

    มันโช่เซ็งจิตแข้งเรือใบฟอร์มห่วยแพ้วูล์ฟส์


            โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็งจิต หลังลูกทีมโชว์ฟอร์มสุดห่วย ในเกมแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชี้หากอยากมีลุ้นแชมป์ลีก เกมแบบนี้ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ พร้อมก้มหน้ารับสภาพ "หมาป่า" เล่นดี และสมควรชนะแล้ว 

         โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรเจ้าบุญทุ่มเมืองผู้ดี ยอมรับ สุดผิดหวังกับผลงานของลูกทีม ในเกมแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 เกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมยกย่อง "หมาป่า" สมควรที่จะชนะแล้ว


          แมตช์นี้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าโตโก ซัดจุดโทษให้ "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำไปก่อน แต่เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้ ยิงคืน 2 ประตูรวดจาก เนนาด มิลิยาส กับ เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ โดย มันชินี่ ให้ความเห็นว่า แมตช์นี้ถือเป็นฟอร์มที่แย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ของ แมนฯ ซิตี้ เลยก็ว่าได้


          อดีตนายใหญ่ อินเตอร์ มิลาน กล่าวว่า "เราเล่นแค่ 25 นาทีแรกเท่านั้น เราเล่นได้ดีในระหว่างช่วงเวลานี้ของเกม และมีโอกาสที่จะได้ประตู 4-5 ครั้ง แต่จากนั้นเราก็หยุดเล่นซะดื้อๆ และ วูล์ฟส์ ก็สมควรที่จะได้รับชัยชนะในแมตช์นี้ มันเป็นเกมที่แย่ที่สุดที่เราลงเล่นเลยก็ว่าได้"


          "ผมไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น เราต้องกลับมารวมกลุ่มกันใหม่ และทำความเข้าใจว่า ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้น บางทีเราคิดว่า หลังจากผ่านไป 20 นาที มันคงจะเป็นเกมที่ง่ายดาย ทีมสามารถแพ้ได้ แต่คุณไม่ควรแพ้อย่างที่เราทำแบบนี้ เหมือนกับการเล่นที่ย่ำแย่ตลอด 60-70 นาที"


          สำหรับตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มี 17 คะแนน ตามหลัง เชลซี จ่าฝูง 8 แต้ม โดย "มันโช่" กล่าวถึงโอกาสในการลุ้นแชมป์ลีกว่า "นี่เป็นเกมที่คุณต้องชนะ ถ้าคุณอยากมีลุ้นคว้าแชมป์ลีก คุณต้องเล่นทุกเกมแบบเต็มที่ 115 เปอร์เซ็นต์ ผมต้องเข้าใจให้เร็วที่สุดว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น แต่ฤดูกาลยังอีกยาวไกล เราเริ่มต้นได้ดีมาก และยังมีเวลาที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมา"

    Leia mais...

    มาร์ติเนซชี้ความล้าทำวีแกนพ่ายฟูแล่ม


            โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือ วีแกน ชี้ความล้า คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมบุกไปพ่าย ฟูแล่ม นิ่มๆ 0-2 เมื่อวันเสาร์ แต่ยก "เจ้าสัวน้อย" เล่นได้เจ๋งสุดๆ เกินที่จะต้านทานไหว 

         โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีม วีแกน แอธเลติก ออกมาแสดงทัศนะหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่บุกไปแพ้ ฟูแล่ม 0-2  เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ความอ่อนล้าของสภาพร่างกายนักเตะ "เดอะ ลาติกส์" คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เป็นฝ่ายปราชัยในแมตช์นี้ 


          กุนซือเลือดกระทิงดุวัย 37 ปี กล่าวว่า "ผมคิดว่า มันเป็นเกมที่ห่วยแตกที่สุดของเราในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว คุณอาจจะเห็นว่า เกมนี้ ฟูแล่ม มีพลังพิเศษ ส่วนทีมเรานั้น บางทีอาจจะล้ามาจากเกมเมื่อวันอังคาร (ชนะ สวอนซี 2-0 ในเกม คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4) มันก็เลยทำให้เราใส่ได้ไม่เต็มที่ สองประตูตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก (คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ เหมาคนเดียวในนาทีที่ 30 และ 44) ทำให้พวกเขาได้เปรียบทันที พวกเขาแกร่งเกินกว่าที่เราจะต้านทานอยู่จริงๆ ในวันนี้"
     

          "วันนี้ทีมเราไม่มีพละกำลังที่จำเป็นต้องมีสำหรับการออกไปเล่นนอกบ้านในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังไม่น้อยเลย เกมนี้เราเอาบอลลงและครองเกมไม่ได้เลย เราปล่อยให้ ฟูแล่ม กดดันเข้าใส่ตลอดเวลา พวกเขาแข็งแกร่งมากๆ พวกเขามีเวลาเตรียมความพร้อมถึง 7 วัน และผมก็คิดว่า มันแสดงผลออกมาให้เห็นกันแล้ว" มาร์ติเนซ ตบท้าย

    Leia mais...

    มอยส์สดุดีฟอร์มยาคูบูซัดชัยนำทอฟฟี่ซิว3แต้ม


            เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ชมฟอร์มการเล่นของ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ที่ซัดประตูชัย เกม พรีเมียร์ลีก ที่เฉือนชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 รับลูกทีมจ่ายบอลกันช้าเกินไปในช่วงครึ่งแรก แต่ก็สามารถยกระดับเกมในครึ่งหลัง จนสามารถเก็บ 3 คะแนน จาก "เดอะ พ็อตเตอร์ส" ได้สำเร็จ 

         เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน ยกย่องฟอร์มการเล่นของ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ หัวหอกเลือดไนจีเรีย


         ที่ซัดประตูแรกในฤดูกาล และเป็นประตูชัย ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่เปิดบ้านเฉือนชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ฟอร์มตกมานาน จนตกเป็นข่าวว่า เตรียมถูกโละออกจากถิ่น กูดิสัน พาร์ค  เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา


          กุนซือวัย 47 ปี กล่าวว่า "มันต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ กว่าที่กองหน้าของเราจะยิงประตูได้มากมาย แต่ผมคิดว่า ประตูของ ยัค (ยาคูบู) ยอดเยี่ยมมาก การจบสกอร์ของเขายอดเยี่ยม และผมคิดว่า การทำทางของ หลุยส์ ซาฮา ก็มีส่วนช่วยอย่างมาก หากเราสามารถโชว์ฟอร์มได้เช่นนี้ เราก็จะเป็นทีมที่ดี ผมคิดว่า มันจะช่วยให้สถานการณ์ของเราดีขึ้นกว่านี้ได้แน่นอน"  


          "บางครั้งผมคิดว่า ความมั่นใจเกิดจากการซ้อมหนัก และความพยายามที่คุณทุ่มเทลงไป และมันทำให้ ฟนบอล, สตาฟฟ์โค้ช และผู้เล่นรู้สึกพึงพอใจ สิ่งหนึ่งที่ผมจะพูดถึง ยัค คือความทุ่มเทของเขาได้พัฒนาขึ้น และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาพัฒนาขึ้น และผมมั่นใจว่า ประตูต่อไปของเขาจะไหลามมาอย่างที่เขาทำได้ในวันนี้แน่"


          "ผมไม่คิดว่า จะมีใครที่ได้ลงเล่นกับ สโต๊ค แล้วจะไม่เจอเกมยากๆ เราแสดงให้เห็นถึงความอดทน แต่ผมคิดว่า เราจ่ายบอลช้าไปหน่อยในครึ่งแรก และผมต้องการให้ยกระดับเกมขึ้นไปอีกในครึ่งหลังแล้วก็ทำได้เช่นนั้น เราทำได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง ผมรู้สึกว่า พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งต่อการเอาชนะ และผมพอใจที่เราเก็บ 3 คะแนนได้ในวันนี้" บิ๊กบอส "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทิ้งท้าย

     

    Leia mais...

    หงส์ส่งตอร์ยืนหอกเป้า!บุกเยือนถิ่นโบลตัน


            "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกพลบุกถิ่น รีบ็อค สเตเดี้ยม ของ โบลตัน แนวรุกสามประสานใช้ มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ โจ โคล สนับสนุนส่งบอลให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านทำศึกเบอร์มิงแฮมดาร์บี้แมตช์ กับ เบอร์มิงแฮม เช่นเดียวกับ นิวคาสเซิ่ล ทำศึกไทน์-แวร์ดาร์บี้ กับ ซันเดอร์แลนด์ ในศึกพรีเมียร์ชิพ คืนนี้
    ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
    โบลตัน (8) - ลิเวอร์พูล (18)


    สนาม : รีบ็อค สเตเดี้ยม


          โอเว่น คอยล์ กุนซือ เดอะ ทร็อตเตอร์ส ไม่น่าปรับเปลี่ยน 11 คนแรก จากเกมล่าสุดที่บุกเสมอ วีแกน 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ถึงแม้ว่า อิวาน คลาสนิช กองหน้าโครแอต จะพ้นโทษแบน 1 นัดกลับมาแล้ว และเพิ่งได้รับการประกันตัวข้อหาข่มขืนหญิงสาวก็ตาม


          เวลานี้ โบลตัน ยังไม่มี โจอี้ โอไบรอัน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เจลอยด์ ซามูเอล และ ชอน เดวิส ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ แอนดี้ โอไบรอัน เซนเตอร์ฮาล์ฟ ที่เพิ่งหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมา ก็ปล่อยตัวให้ ลีดส์ ยืมใช้งาน 1 เดือน


          คอยล์ ไม่เปลี่ยนแปลงนักเตะตัวจริงมาหลายนัดแล้ว หากไม่มีตัวหลักบาดเจ็บ ระบบการเล่น 4-4-2 จะประกอบไปด้วย ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้งาน เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน


          แดนกลางมี อี ชุง-ยอง กับ มาร์ติน เปตรอฟ ขึ้นเกมริมเส้นขวา-ซ้าย และคู่กลางใช้ ฟาบริซ มูอัมบา กับ สจ็วร์ต โฮลเด้น คู่กองหน้ายังคงเชื่อมั่นจอมโหม่ง เควิน เดวี่ส์ กับ โยฮัน เอลมานเดอร์


          ด้าน รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ หงส์แดง ยังอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน แม้ว่านัดล่าสุดจะเอาชนะ แบล็คเบิร์น มาได้ 2-1 แต่อันดับก็ขยับขึ้นมาอยู่แค่ที่ 18 เท่านั้น


          สภาพทีมต้องลุ้นทดสอบความฟิตของ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาตัวเก่ง หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาแล้ว หลังพลาดลงเล่นมา 3 นัดติดต่อกัน และเกมนี้มีโอกาสดีที่จะคัมแบ็ก


          เดิร์ค เค้าท์ กองหน้าดัตช์ ที่บาดเจ็บข้อเท้า ล่าสุดอาการดีขึ้นมาก ถึงขั้นอาจเซอร์ไพรส์กลับคืนทีมในเกมกับ เชลซี สัปดาห์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในราย ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กองหลังเดนมาร์ก ยังคงเจ็บน่อง ซึ่งทำให้เขาพลาดลงเล่นมาตลอดทั้งเดือน


          ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ แดนกลางมี ราอูล เมเรเลส กับ ลูคัส เลว่า เป็นตัวรับ แนวรุกมี มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล หน้าเป้าใช้ เฟร์นานโด ตอร์เรส

    รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
     โบลตัน :
     ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น - เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน - อี ชุง-ยอง, ฟาบริซ มูอัมบา, สจ็วร์ต โฮลเด้น, มาร์ติน เปตรอฟ - เควิน เดวี่ส์, โยฮัน เอลมานเดอร์
     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ - ราอูล เมเรเลส, ลูคัส เลว่า - มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
     ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

    แอสตัน วิลล่า (10) - เบอร์มิงแฮม (12)


    สนาม : วิลล่า พาร์ค


          เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือ สิงห์ผงาด จะคุมทีมทำศึกเบอร์มิงแฮมดาร์บี้แมตช์เป็นครั้งแรก และคงต้องปรับทัพจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลายตำแหน่งทีเดียว


           มาร์ค อัลไบรท์ตัน ปีกดาวรุ่ง จะติดโทษแบน 1 นัด หลังโดนไล่ออกในเกมดังกล่าว แต่ข่าวดีคือ สตีเฟ่น วอร์น็อค แบ็กซ้ายพ้นโทษแบน 1 นัดแล้ว หลังสะสมใบเหลืองครบโควต้าจนโดนแบนในเกมคาร์ลิ่ง คัพ


           ตัวหลักอย่าง สติลิยัน เปตรอฟ (เข่า), กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (โคนขาหนีบ) และ ลุค ยัง (เอ็นหลังหัวเข่า) บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ ยอห์น คาริว กองหน้าร่างใหญ่ชาวนอร์เวย์ ถูกตั้งความหวังว่าจะหายป่วยกลับมา


           ระบบการเล่น 4-2-3-1 แบร๊ด ฟรีเดล ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ อาบิบ เบย์, ริชาร์ด ดันน์, เจมส์ คอลลินส์, สตีเฟ่น วอร์น็อค แดนกลางมี ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ กับ สตีฟ ซิดเวลล์ เป็นตัวรับ ส่วนแนวรุกใช้ สจ็วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แอชลี่ย์ ยัง หน้าเป้าวาง เอมิล เฮสกี้


           ด้าน อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือ ลูกโลก จะได้กำลังหลักอย่าง เคร็ก การ์ดเนอร์ พ้นโทษแบน 3 นัด กลับมาแล้ว หลังลงเล่นไปเรียบร้อยตั้งแต่เกมคาร์ลิ่ง คัพที่เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 และไปชนะในช่วงการดวลจุดโทษ 4-3


           อเล็กซานเดอร์ คเล็บ จอมทัพชาวเบลารุส จะกลับมามีชื่ออยู่ในทีม หลังหายเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมเอาชนะ แบล็คพูล 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ มิเชล กองกลางสเปน ที่หายเจ็บหน้าแข้งมาจากเกมคาร์ลิ่ง


           อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวสกอตต์ยังไม่สามารถใช้งาน คาเมรอน เจอโรม (ข้อเท้า), เจมส์ แม็คฟาดเด้น (เข่า) และ ฌอง โบเซอฌูร์ (เข่า) ที่บาดเจ็บทั้งหมด


           ระบบการเล่น 4-5-1 เบน ฟอสเตอร์ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, สกอตต์ แดนน์, เลียม ริดจ์เวลล์ แดนกลางมี เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบวเยอร์, คีธ ฟาเฮย์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ หน้าเป้าใช้ นิโกล่า ซิกิช

    รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
     แอสตัน วิลล่า :
     แบร๊ด ฟรีเดล - อาบิบ เบย์, ริชาร์ด ดันน์, เจมส์ คอลลินส์, สตีเฟ่น วอร์น็อค - ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, สตีฟ ซิดเวลล์ - สจ็วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แอชลี่ย์ ยัง - เอมิล เฮสกี้
     เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, สกอตต์ แดนน์, เลียม ริดจ์เวลล์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบวเยอร์, คีธ ฟาเฮย์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ - นิโกล่า ซิกิช
     ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

    นิวคาสเซิ่ล (9) - ซันเดอร์แลนด์ (7)


    สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค


          สาลิกาดง เปิดสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ทำศึกไทน์-แวร์ดาร์บี้ หรือ นอร์ธ อีสต์ ดาร์บี้ หรือที่เรียกตามประสาบ้านเราว่า ดาร์บี้แมตช์แดนอีสาน กับ แมวดำ


          คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือ สาลิกาดง พักตัวหลักถึง 9 คนในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่แพ้ อาร์เซน่อล 0-4 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีเพียง ทิม ครุล ผู้รักษาประตู กับ ไมค์ วิลเลียมสัน เซนเตอร์ฮาล์ฟ 2 คนเท่านั้นที่เป็นตัวจริงจากลีกล่าสุดที่บุกชนะ เวสต์แฮม 2-1


          สตีเว่น เทย์เลอร์ กองหลังเด็กปั้นของทีม ที่เจ็บไหล่พักไปนาน กลับมาซ้อมเต็มที่แล้ว แต่ก็ต้องแย่งตำแหน่งในทีมให้ได้ก่อน เพราะร้างสนามมาตั้งแต่เดือนมกราคม


          โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังตัวเก๋า ยังบาดเจ็บต้นขา ไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ เช่นเดียวกับ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ขาหัก), ลีออน เบสต์ (ข้อเท้า), แดน กอสลิ่ง (เข่า) และ สตีฟ ฮาร์เปอร์ (ไหล่) ที่บาดเจ็บทั้งหมด


          ระบบการเล่น 4-4-2 ทิม ครุล ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลางมี โจอี้ บาร์ตัน, ชีค ติโอเต้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ คู่หน้า โชล่า อเมโอบี้ ยืนคู่ แอนดี้ แคร์โรลล์


          ด้าน สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ ได้รับข่าวดีสองตำแหน่ง คีแรน ริชาร์ดสัน แบ็กซ้าย กับ อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ ปีกขวา คาดว่าจะฟิตสมบูรณ์ลงสนามในเกมนี้ทันเวลา


          ริชาร์ดสัน หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว หลังบาดเจ็บยาวมาตั้งแต่เกมคาร์ลิ่งคัพที่แพ้ เวสต์แฮม เมื่อเดือนกันยายน ขณะที่ เอลโมฮามาดี้ ปีกชาวอียิปต์ ก็หายเจ็บเท้าจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 กลับมาเช่นกัน


          เดวิด เมย์เลอร์ หายเจ็บเข่า ลงซ้อมตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว แต่เกมนี้คงจะเร็วเกินไป ขณะที่ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (เข่า) ยังคงพักฟื้นยาว ส่วน แอนดี้ รีด กองกลางร่างท้วม ปล่อยตัวให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมใช้งาน


          ระบบการเล่น 4-4-2 ซิมง มิโยเลต์ เฝ้าเสา แนวรับใช้ เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน แดนกลางมี อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, ลี แคตเทอร์โมล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์ คู่กองหน้าใช้ แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนคู่ ดาร์เรน เบนท์

    รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
     นิวคาสเซิ่ล :
     ทิม ครุล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - โจอี้ บาร์ตัน, ชีค ติโอเต้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ - โชล่า อเมโอบี้, แอนดี้ แคร์โรลล์
     ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโยเลต์ - เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน - อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, ลี แคตเทอร์โมล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์ - แดนนี่ เวลเบ็ค, ดาร์เรน เบนท์
     ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

    Leia mais...

    แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ

    Date : 30/10/2010
    พอร์ทสมัธ2 - 1ฟอเรสต์
    คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้3 - 1นอริช ซิตี้
    คริสตัล พาเลซ0 - 3สวอนซี
    เร้ดดิ้ง4 - 3ดอนคาสเตอร์
    ควีนส์ปาร์ค1 - 1เบิร์นลี่ย์
    อิปสวิช2 - 0มิลล์วอลล์
    สคันธอร์ป1 - 4ลีดส์ ยูไนเต็ด
    เชฟฯ ยูไนเต็ด0 - 1โคเวนทรี
    มิดเดิ้ลสโบรช์1 - 2บริสตอล ซิตี้
    เลสเตอร์1 - 0เปรสตัน
    ดาร์บี้4 - 1วัตฟอร์ด
    บาร์นสลี่ย์1 - 0ฮัลล์ ซิตี้

    Leia mais...

    ลีกเอิง ฝรั่งเศส

      Date : 31/10/2010
    โมนาโกVsบอร์กโดซ์
    มงต์เปลลิเย่ร์Vsเปแอสเช
    วาล็องเซียนส์Vsลีลล์

       Date : 30/10/2010
    ตูลูส1 - 1ล็องส์
    โอแซร์2 - 0นีซ
    แบรสต์1 - 0แซงต์ เอเตียน
    ก็อง2 - 3น็องซี่
    ลอริยองต์2 - 0อาร์กส์
    โอลิมปิก ลียง2 - 1โซโชซ์
    มาร์กเซยVsแรนส์

    Leia mais...

      ©แทง บอล,บอล ออนไลน์,แทง บอล ออนไลน์,การ แทง บอล - Todos os direitos reservados.

    Template by Dicas Blogger | Topo