Reds sign Lindegaard
Personal terms have been agreed with the player, who passed a medical in Manchester. Anders will train with United during December, but will be ineligible to play until the transfer window opens in January 2011.
Saturday, November 27, 2010
ลือหงส์แดงเล็งกระชากจอห์นสันจากเรือใบ
เมโทร หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของเมืองผู้ดี รายงานข่าวว่า รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล จะยื่นข้อเสนอ เพื่อคว้าตัว อดัม จอห์นสัน ปีกทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเสริมเกมรุกในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในเดือนมกราคมนี้
สื่อดังกล่าวระบุว่า "ป๋ารอย" เป็นแฟนตัวยงของ จอห์นสัน และ อยากให้เขามาช่วย "หงส์แดง" รักษาฟอร์มระยะหลังที่ล่าสุดกลับมาคืนฟอร์มไล่ต้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ในพรีเมียร์ลีกต่อไป โดยไม่นานมานี้ อดีตเด็กปั้น มิดเดิ้ลสโบรช์ ได้ออกมาพูดถึงความผิดหวังใน อีสต์แลนด์ แต่ต่อมากลับขอถอนคำพูดด้วยการชี้แจงว่าเป็น "ช่วงเวลาคับข้องใจ"
อย่างไรก็ตาม ความเห็นดังกล่าวดูเหมือนทำให้ ฮ็อดจ์สัน หูผึ่ง โดย จอห์นสัน กล่าวว่า "นักฟุตบอลทุกคนต้องลองคิดดู เมื่อถึงเวลา ตอนนี้มันยังเร็วอยู่ แต่ผมจะลองคิดดู (เรื่องย้ายทีม) อย่างแน่นอน"
ดาวเตะวัย 23 ปี ได้หยิบยกเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่เสมอกันจืดชืดแบบไร้สกอร์ เมื่อต้นเดือน เป็นตัวอย่างความหัวเสียของเขาในทีม "เรือใบสีฟ้า" หลังจากเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วง 17 นาทีสุดท้าย แต่เขาก็เหมือนนักเตะส่วนใหญ่จากทั้ง 2 ฝ่ายที่ไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันของเกมได้ "มันน่าผิดหวังที่คุณไม่ได้เล่นตั้งแต่ต้นเกมหลายๆ นัดแบบนั้น ผมอยากลงไปเล่นเต็มที ผมอยากเล่นเป็นตัวจริงจะตาย ไม่ใช่แค่ลงมาเป็นตัวสำรอง ผู้จัดการทีมต้องตัดสินใจหลายอย่าง แต่ผมผิดหวังที่ถูกมองข้าม"
หงส์จ่อดึงอาควิกลับช่วงปีใหม่หลังโชว์เจ๋งกับยูเว่
อาควิลานี่ถูกส่งมาเล่นแบบยืมตัวกับยูเว่ หลังการมาถึงของ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือชาวอังกฤษ ที่เผยว่าไม่ที่ว่างในทีมสำหรับอดีตเด็กปั้นโรม่า และคว้าตัวกองกลางอย่าง ราอูล เมยเรเลส กับ คริสเตีย โพลเซ่น เข้าไปแทน
ทว่าล่าสุด คอชท์ออฟไซด์ สื่อออนไลน์ของอังกฤษ ระบุว่า ฮ็อดจ์สันเตรียมเรียกตัวอาควิลานี่กลับมายังแอนฟิลด์ ในช่วงเดือน ม.ค. แม้ทำสัญญายืมตัวไว้ที่ 1 ปีเต็มก็ตาม
อาควิลานี่ไปเล่นได้ดีกับยูเว่ โดยถึงตอนนี้ได้ลงสนาม 11 เกม และยิง 1 ประตู ในการเข้าคู่กลางสนามกับ เฟลิเป้ เมโล่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ทำให้ฮ็อจด์สัน มองว่าแข้งวัย 26 ก็น่าจะมาทำผลงานได้ดีกับ "หงส์แดง" เช่นกัน
พร้อมกันนั้น ลิเวอร์พูลยังตกเป็นข่าวว่า กำลังจับตาสถานการณ์ของ 2 แข้งลีลล์ เมโทรโปล ทีมในลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่าง อาดิล รามี่ เซนเตอร์แบ็ก กับ แชร์วินโญ่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี่โคสต์ และอาจจะจ่ายเงินดึงมาเสริมทัพในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายอีกรายอย่าง เอด็อง อาซาร์ กองกลางเบลเยียมของลีลล์จะไม่มายังลิเวอร์พูลแน่นอน โดยมองถึงการไปร่วมสังกัดสโมสรที่ใหญ่กว่าทีม "หงส์แดง" ในอนาคต
เรน่าเตือนหงส์อาจเสียสตาร์ดังหากฟอร์มไม่ดีขึ้น
โฆเซ่ เรน่า ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า คงเป็นฝันร้ายแบบสุดๆ หากทีมต้องมาสูญเสียนักเตะคนสำคัญออกไป ไม่ว่าจะเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด รวมไปถึงตนเอง หลังเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่เป็นประวัติศาสตร์
เรน่า ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเฝ้าเสาอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อฤดูกาลก่อน กล่าวว่า "พวกเราจำเป็นต้องจบฤดูกาลนี้ด้วยอันดับที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน และต้องทำให้มั่นใจได้ว่า เรากำลังสร้างทีมสำหรับปีต่อๆ ไป และพยายามที่จะต่อสู้กับคู่แข่ง หากไม่เป็นเช่นนั้น มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา ที่จะรั้งบรรดานักเตะเหล่านั้นเอาไว้ได้"
"พวกเราจำเป็นต้องแน่ใจด้วยว่า จะมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น มิฉะนั้นมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับการจบฤดูกาลด้วยการเป็น 4 อันดับแรก พวกเราอาจจะไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ท็อตแน่ม (ฮ็อทสเปอร์) นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำให้แน่ใจได้ว่า เราจะสร้างทีมให้ดีขึ้นกว่าเดิม เวลานี้หลายๆ สโมสรทั่วอังกฤษต่างกำลังสร้างทีม พวกเราก็ต้องทำเช่นกัน เพื่อต่อสู้กับพวกเขา"
ส่วนประเด็นของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ที่เข้ามาแทนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ แล้วนำ "เร้ด แมชีน" ทำผลงานเริ่มต้นฤดูกาลแย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1953-54 นั้น เรน่า กล่าวว่า "สิ่งที่จะทำให้ระบบได้ผลก็คือนักเตะ พวกเราต้องแสดงฝีเท้าออกมาให้เห็นมากกว่านี้ในสนาม ราฟา เคยเป็นที่รักของ ลิเวอร์พูล มาก่อน แต่ผมก็คิดว่า มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่แฟนๆ จะหนุนหลัง รอย เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ผมไม่คิดว่า จะมีกระแสวิจารณ์รุนแรงมากเท่าไหร่อยู่แล้ว"
แม้ว่า เรน่า จะเรียกร้องให้มีการเสริมทีม ทว่า ฮ็อดจ์สัน ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่ทุ่มเม็ดเงินเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อดึงนักเตะเสริมทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม ศกหน้า อย่างแน่นอน โดยระบุว่า "ตอนนี้ผมมีภาพที่ชัดเจนมากๆ กับสิ่งที่เราควรจะทำ และจำเป็นต้องทำ ซึ่งทีมจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันน่าจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนที่ผมคิดไว้ในช่วงต้นฤดูกาล เมื่อเราต้องแพ้หลายเกม"
"หวังว่านั่นจะหมายความว่า เราจะไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากนัก ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในเดือน มกราคม เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องดี หากเราสามารถทำให้นักเตะทุกคนมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เต็มที่ พร้อมกับดึงนักเตะอีก 1 หรือ 2 คนที่สามารถช่วยเราได้เข้ามาเพิ่ม"
"เมื่อเดือนมกราคมมาถึง ไม่มีใครรู้หรอกว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อนักเตะจะมีให้ใช้ได้เท่าไหร่ และพวกเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จะมีหลักประกันอะไรว่า คนที่เรากำลังมองดูอยู่จะพร้อมย้ายทีม ผมอยากจะให้ใช้งานนักเตะชุดนี้ต่อไปจนกระทั่งจบฤดูกาล เนื่องจากผมไม่ได้ต้องการจะให้ใครย้ายออกไปเลย แต่ในทางกลับกัน ผมก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่า จะไม่มีนักเตะย้ายออกไปในเดือนมกราคม และหากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกันนั่นแหละว่า จะไปหานักเตะจากที่ไหนมาทดแทนพวกเขา" อดีตนายใหญ่ ฟูแล่ม กล่าวในที่สุด
ซันแฉ!ผีโละเบิร์บถ้ายังฝืด
แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 30.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,476 ล้านบาท) ดึงตัวหัวหอกบัลแกเรีย มาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2008 โดยช่วงแรกโดนวิจารณ์หนัก ก่อนที่ต้นฤดูกาลนี้จะโชว์ฟอร์มสดซัดไป 6 ประตูจาก 5 นัด แต่ 10 เกมที่ผ่านมาไม่สามารถทำประตูได้เลยนับตั้งแต่ซัดแฮตทริกให้ "ปีศาจแดง" เฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
หัวหอกวัย 29 ปี ยังเหลือสัญญากับ "ปีศาจแดง" อีก 18 เดือน แต่ยังไม่มีทีท่าเลยว่า ต้นสังกัดจะเสนอสัญญาใหม่ให้ แถมยังมีรายงานว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังเล็งกองหน้ารายใหม่เข้ามาเสริมคม ทำให้อาจตัดสินใจโละ เบอร์บาตอฟ ออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงปีใหม่นี้ หรือไม่ก็ช่วงหน้าร้อนปีหน้า
สำหรับสโมสรที่มีข่าวว่าให้ความสนใจ เบอร์บาตอฟ ก็คือ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ บุนเดสลีกา และ ยูเวนตุส ทีมดังในศึก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ที่คาดว่าพร้อมยื่นข้อเสนอจำนวน 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 480 ล้านบาท) เข้ามาให้ "ปีศาจแดง" พิจารณา
มอยส์หวังเบ็คส์ย้ายร่วมทัพทอฟฟี่
ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ศึก เอ็มแอลเอส ปิดซีซั่น เบ็คแฮม เคยย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ เอซี มิลาน ในกัลโช่ เซเรีย อา ถึง 2 ครั้ง เพื่อต้องการทำให้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ นายใหญ่ทัพ "สิงโตคำราม" จับตามอง โดยดาวเตะวัย 35 ปี เป็นเพื่อนกับ ฟิล เนวิลล์ กัปตันทีม เอฟเวอร์ตัน ในสมัยที่ทั้งคู่ยังเล่นอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ มอยส์ ก็เคยทำงานร่วมกับ อดีตปีกขวา "ปีศาจแดง" มาแล้ว ในช่วงที่ยังคุม เปรสตัน นอร์ธเอนด์
กุนซือ เอฟเวอร์ตัน กล่าวว่า "ผมหวังว่าถ้า เดวิด ต้องการจะย้ายมา เขาจะโทรหาผม ผมเคยทำงานกับ เดวิด ที่ เปรสตัน ผมรู้จักเขา และถ้าเขาต้องการย้ายกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาก็เพียงแค่จำเป็นต้องโทรหาผม หรือเพื่นของเขา ฟิล เนวิลล์ เขารู้ว่าจะติดต่อกับ ฟิล และผมได้อย่างไรบ้าง เราจะมองถึงเรื่องการเงิน แต่ถ้าเขาจะย้ายมา และบอกกับผมว่า เขาต้องการจะมาเล่นที่นี่ ผมก็จะไปหาท่านประธาน และถามว่าถ้าเราจะทำงานด้วยการนำเสื้อของเขาออกมาขาย มันจะเพียงพอหรือไม่"
ในซีซั่นที่ผ่านมา มอยส์ เคยคว้า แลนดอน โดโนแวน จอมทัพตัวเก่ง แกแล็กซี่ มาเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยสัญญายืมตัว และก็สามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดี และล่าสุด โค้ชวัย 47 ปี ยอมรับว่า ยังรอฟังความเป็นไปได้ในการย้ายสังกัดอีกครั้ง โดยระบุว่า "แลนดอน ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจมากนักจนถึงช่วงกลางเดือนหน้า"
ผีแถลงยันเซ็นลินเดการ์ดเฝ้าเสา3ปีครึ่ง
ลินเดการ์ด ที่ผ่านการตรวจร่างกายใน แมนเชสเตอร์ แล้ว สามารถบรรลุข้อตกลงเงื่อนไขส่วนตัว การย้ายทีมจึงลุล่วงในที่สุด โดยนักเตะจะมาร่วมซ้อมกับทีมตลอดเดือนธันวาคม แต่ว่าจะต้องรอการย้ายทีมเมื่อตลาดนักเตะเปิดทำการอีกครั้งวันปีใหม่
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวต้อนรับว่าที่ลูกทีมคนใหม่ว่า "อันเดอร์ส เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุด ความท้าทายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการมองไปยังอนาคตเสมอ และกับ อันเดอร์ส เราได้เซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมนอกจากในปัจุบัน ยังรวมถึงในอนาคตด้วย การที่เราได้เขามาร่วมซ้อมด้วยกันก่อนถึงเวลาลงทะเบียนนักเตะนับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของเขา มันก็เหมือนกับช่วงปรี-ซีซั่น ที่เราต้องให้เขาเข้ากับนักเตะคนอื่นๆ ให้ได้"
ด้าน ลินเดการ์ด วัย 26 ปี กล่าวอย่างชื่นมื่นว่า "การย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนฝันที่เป็นจริงของผม ที่ เดนมาร์ก สโมสรพวกเขาเป็นเหมือนสถาบัน การได้มาเล่นที่นี่เป็นเกียรติอย่างสูง ผมกำลังเฝ้ารอการลงเล่น และซ้อมร่วมกับเหล่านักเตะที่ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลปัจจุบัน ผมแทบรอการเป็นส่วนหนึ่งของทีมๆ นี้ และช่วยให้ทีมคงความเป็นทีมหัวแถวต่อไป ไม่ไหว"
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นวันเดียวกัน เฟอร์กี้ ได้ออกมายืนยันการย้ายทีมครั้งนี้อย่างสั้นๆ แล้วว่า การเจรจาลุล่วง และนักเตะจะมาร่วมทีมในเดือนมกราคม และบอกอีกว่า การคว้า ลินเดการ์ด มาเฝ้าเสา เพราะ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะแขวนถุงมือในวัย 40 ปี "เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ เอ็ดวิน จะเลิกเล่น และผมคิดว่านี่คือเหตุผลสำคัญ (ที่เซ็นสัญญากับประตูคนใหม่ตอนนี้) เราจะต้องปกป้องอนาคตของเรา"
ไก่เฮ!ดอว์สันคัมแบ็กลงซ้อมได้แล้ว
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือแห่งถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน กล่าวถึง ดอว์สัน ที่กำลังต่อสู้เพื่อกลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้ง หลังได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ว่า "มันเป็นเรื่องที่ดีมากกับการมีเขากลับมาลงซ้อม มันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาได้รับบาดเจ็บ"
"เขาฝึกร่วมกับโค้ชดูแลความฟิต ซึ่งทำงานทีได้ดีมากกับเขา และมันก็เป็นข่าวที่ดีมาก พวกเราคิดถึง ไมเคิ่ล และการได้เขากลับมามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสุดๆ บรรดานักเตะทุกคนต่างต้องรู้สึกยินดีกับการได้เขากลับมาเช่นกัน" โค้ชวัย 63 ปี กล่าวในที่สุด
อาร์เนเซ่นประกาศลาสิงห์บลูส์หลังจบซีซั่นนี้
อาร์เนเซ่น วัย 54 ปี ซึ่งเข้ามาทำงานกับ เชลซี นานถึง 6 ปีนั้น ให้เหตุผลในการอำลาทีมว่าต้องการจะหาความท้าทายใหม่ โดยช่วงที่ผ่านมา ผอ. กีฬาชาวเดนมาร์ก ได้ช่วยสร้างสถาบันสอนฟุตบอล และระบบเยาวชนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ก่อนจะเข้ามาทำงานใกล้ชิดกับทีมชุดมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
บรูซ บั๊ค ประธานสโมสร เชลซี กล่าวสั้นๆ หลังการประกาศอำลาตำแหน่งของ อาร์เนเซ่น ว่า "แฟร้งค์ ได้ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ เชลซี ในตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา"
ขณะเดียวกัน เรย์ วิลกิ้นส์ อดีตผู้ช่วยกุนซือ เชลซี กำลังขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อยื่นฟ้อง "สิงห์บลูส์" หลังสโมสรตัดสินใจไม่ยอมต่อสัญญาใหม่ให้กับตนเอง เมื่อช่วงกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และแต่งตั้ง ไมเคิ่ล เอเมนาโล่ อดีตกองหลังทีมชาติไนจีเรีย ให้เข้ามาทำหน้าที่แทน
แม็คก้าแนะหงส์ดูไก่เป็นแบบอย่าง
พลพรรค "หงส์แดง" มีโปรแกรมลงเล่นเกมลีกในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ด้วยการบุกไปเยือนถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ของ สเปอร์ส ที่กำลังมีความมั่นใจสุดๆ ภายหลังบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ย. ก่อนจะมาถล่ม แวร์เดอร์ เบรเมน ได้อีก 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ เมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
แม็คมานามาน วัย 38 ปี กล่าวว่า "เมื่อ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เข้ามารับงานที่ สเปอร์ส ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาไปไม่รอดแน่ แต่ตอนนี้ผู้คนต่างพูดเกี่ยวกับพวกเขาอย่างจริงจังพร้อมกับได้รับความนับถือ ลิเวอร์พูล ก็แค่จำเป็นต้องดูในสิ่งที่ สเปอร์ส ได้ทำลงไป เพื่อที่จะได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ห่างไกลกับการที่จะกลับมาชิงชัยอีกครั้ง แฮร์รี่ ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายที่ สเปอร์ส เมื่อผู้จัดการทีมก่อนหน้านี้จะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างมันดูซับซ้อน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องนำมาคิดในเวลานี้"
"ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในวงการฟุตบอล พวกเราได้เห็นกันแล้วในฤดูกาลนี้ ซึ่งแค่การเอาชนะได้ 3 นัดหรือ แพ้ 3 นัด มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงฤดูกาลของทีมได้เลย ลิเวอร์พูล แค่ต้องการเซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะมาอีกสัก 2 คน ในเดือนมกราคม และทุกอย่างมันก็น่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยขุมกำลังหลักก็มีอยู่แล้วอย่าง เปเป้ เรน่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส"
พร้อมกันนั้น อดีตปีก เรอัล มาดริด ยังเชื่อว่า รอย ฮ็อดจ์สัน นายใหญ่ "หงส์แดง" ควรจะทำตามเสียงวิจารณ์ของแฟนๆ ด้วยการเล่นเกมบุกให้มากกว่านี้ หลังเพิ่งจะชนะได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้นกับการเล่นเป็นทีมเยือนในฤดูกาลนี้
"ผมไม่อยากจะวิจารณ์ว่า รอย ฮ็อดจ์สัน เป็นกุนซือเกมรับ แน่นอนว่าเขามีรูปแบบการทำเกมบุกน้อยกว่าผู้จัดการคนก่อน และเสียงวิจารณ์ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ กระนั้นบรรดาแฟนๆ ของ ลิเวอร์พูล ต่างมีความต้องการ และเขาก็จะค้นพบได้ด้วยตัวเอง หากพวกเขาแพ้ มันไม่ใช่เพราะว่าเขาเล่นแต่เกมรับ มันเนื่องมาจาก สเปอร์ส เล่นได้ดีกว่าพวกเขาในตอนนี้ ซึ่งผมไม่คิดว่าคุณจะสามารถพูดได้ว่ากับทีมที่ส่งนักเตะอย่าง ตอร์เรส, เจอร์ราร์ด, (โจ) โคล, (เดิร์ก) เค้าท์ และ มักซี่ โรดริเกซ ลงเล่นเป็นตัวจริง จะเป็นการเล่นเกมรับ"
"เขาต้องการให้ทีมของเขามีการเล่นที่มีระบบ แต่ทีมที่ยอดเยี่ยมในอดีตต่างต้องสร้างจากการมีเกมรับที่แข็งแกร่ง ผมมั่นใจว่าผู้จัดการทีมจะทำให้พวกเขาเล่นในรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่ดูสนุก เมื่อใดที่เขาพอใจ นั่นก็หมายความว่าทุกคนรู้บทบาทของพวกเขาในทีม" แม็คมานามาน กล่าวทิ้งท้าย
ปืนบุกอัดวิลล่าสุดมันส์4-2แซงนำฝูงชั่วคราว
"สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า เปิดสนามวิลล่า พาร์ค รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โดยเจ้าถิ่นส่งโรแบร์ ปิแรส อดีตกองกลางอาร์เซน่อลปั้นเกมรุกวางยอห์น คาริว ยืนหิกเดี่ยว
ฝั่งทีมเยือนขาดเชส ฟาเบรกาสที่เจ็บส่งทมัส โรซิคกี้ ลงมารับบทกัปตันทีมปั้นเกมแดนกลางร่วมกับ ซามีร์ นาสรี่ และ แจ็ค วิลเชียร์ แทน
น.3 ปืนโตหวิดได้เมื่อโทมัส โรซิคกี้ ซัดด้วยขวาในกรอบฝั่งขวาแบอลพุ่งผ่านมือแบร็ด ฟรีเดล ไปแล้วแต่หลุดเสาไกลออกหลังไป
น.25 เป็นโอกาสของวิลล่าบ้างเมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ที่โยกมาอยู่ฝั่งขวาเปิดบอลเข้าไปหน้าประตูโรแบร์ ปิแรส ทรอดเข้าไปฆม่งแต่โดนไม่เต็มบอลกระดอนไปที่เสาไกลแอชลี่ย์ ยัง วิ่งเข้ากระโดดแปด้วยซ้ายแต่ยิงไม่ถนัดข้ามคานออกหลังไป
น.39 อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0 เมื่อกองหลังวิลล่าพลาดกั๊กกันสกัดบอลเลยไปเข้าทางอังเดร อาร์ชาวิน พาจากกลางสนามขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วเลี้ยงตัดเข้าไปในกรอบก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อแม้แบร็ด ฟรีเดล จะปัดได้แต่โดนแค่ปลายมือก่อนบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย
นาทีต่อมาปืนหวิดได้อีก อังเดร อาร์ชาวิน แทงบอลทะลุให้ซามีร์ นาสรี่ หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วแตะหนีแบร็ด ฟรีเดล ไปได้แล้วแต่กองกลางเฟร้นช์แมนยิงเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวปืนนำ 2-0 อังเดร อาร์ชาวิน เปิดมุมจากฝั่งซ้ายไปตรงกรอบโทษฝั่งขวาซามีร์ นาสรี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเบียดเสาแรกตุงตาข่ายอย่างสวยงามและจบครึ่งแรกอาร์เซน่อลนำ2-0
ครึ่งหลังวิลล่าส่งนาธาน เดลฟูเนโซ่ กองหน้าดาวรุ่งลงสนามแทน โรแบร์ ปิแรสและมาได้ประตูตีไข่แตก1-2 น.52 เมื่อกองหลังปืนโตโหม่งสกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางเคียแรน คล้าร์ก พักอกเอาบอลลงตรงกรอบโทษแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มๆบอลพุ่งตุงตาข่าย
น.56 ปืนโตนำ 3-1 โทมัส โรซิคกี้ แทงบอลเข้ากรอบโทษให้มารูอาน ชามัค สลัดหนีริชาร์ด ดันน์ เข้าไปในกรอบโทษแล้วจิ้มสวนตัว แบร็ด ฟรีเดล ตุงตาข่าย
น.70 วิลล่าไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 เมื่อแอชลี่ย์ ยังเปิดมุมฝั่งขวาให้ริชาร์ด ดันน์ โหม่งจากกรอบโทษเสาไกลบอลย้อยกลับไปที่เสาแรกเคียแรน คล้าร์ก ถอยหลังโหม่งเช็ดบอลไปเช็ดคานเข้าประตูไป
จากนั้นวิลล่าโหมบุกหนักแต่ก็ยิงตีเสมอไม่แถมยังเกือบโดนจังหวะโต้กลับของทีมเยือนเล่นงานหลายหนแต่รอดตัวไป
กระทั่งช่วงทดเจ็บแจ็ค วิลเชียร์ โหม่งให้ปืนโตปิดกล่องเป็นลูกที่ 4 ทำให้จบเกมอาร์เซน่อล บุกชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 แซงนำจ่าฝูงชั่วคราวหลังแมนฯ ยูไนเต็ดแตะคู่ 22.00 น. ส่วนเชลซีเตะวันอาทิตย์
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอสตัน วิลล่า : แบร็ด ฟรีเดล,ลุค ยัง,ริชาร์ด ดันน์,เจมส์ คอลลินส์,สตีเฟ่น วอร์น็อค,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,เคียแรน คล้าร์ก,แบร์รี่ แบนแนน,โรแบร์ ปิแรส,แอชลี่ย์ ยัง,ยอห์น คาริว
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้,บาการี่ ซานญ่า,โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,เซบาสเตียง สกิลลาชี่,กาแอล กลิชี่,ซามีร์ นาสรี่,อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์,โทมัส โรซิคกี้,อังเดร อาร์ชาวิน,มารูอาน ชามัค
สเปอร์ส VS ลิเวอร์พูล
สเปอร์ส VS ลิเวอร์พูล อาทิตย์ที่ 28 พ.ย.เวลา 23.00 น.
วันที่ 11/26/2010 9:20:46 AM
Advertisement
โคจรมาพบกันถูกจังหวะเวลาพอดีสำหรับอดีตทีมในกลุ่มบิ๊กโฟร์อย่างลิเวอร์พูลที่พยายามสร้างผลงานเพื่อกลับไปยืนอยู่ในกลุ่มนั้นใหม่อีกครั้ง นัดนี้เยือนเจ้าบ้านซึ่งมีผลงานต่อเนื่องตลอดสามปีที่ผ่านมาล่าสุดผ่านเข้ารอบนอคเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีกเรียบร้อยแล้วทั้งที่การแข่งขันยังไม่ครบ 6 นัด
เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก
โดยเฉพาะการเล่นที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ของพวกเขาเป็นปัจจัยสำคัญในการไล่เก็บคะแนน ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งหมด 10 นัดแพ้ 1 ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นเอง สำหรับสถิติที่พบกันของทั้งสองทีมตลอดกาล
สถิติ
VDV พร้อมลุย... สภาพทีมของสเปอร์สในสัปดาห์นี้อาจดูเหมือนไม่พร้อมแต่ด้วยศักยภาพแนวลึกของทีมทำให้ แฮร์รี เรดแนปป์ สามารถจัดตัวผู้เล่นได้ดีพอสมควร แม้มีโปรแกรมกลางสัปดาห์แต่เป็นเกมที่ไม่เหนื่อยและเครียดอะไรมากมาย ชนะเบรเมนและเข้ารอบนอคเอาต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอาการบาดเจ็บของ ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ต ที่เจ็บข้อเท้านั้น เรดแนปป์ ไม่เสี่ยงเอาลงสนามนัดรับมือเบรเมน เพื่อเก็บไว้ใช้งานนัดรับมือลิเวอร์พูลโดยเฉพาะ ส่วน เจอร์เมน เดโฟ รอเวลาเล่นเกมเยอะๆ ตอนนี้ต้องเป็นตัวสำรองไปก่อน แนวรับยังเป็น คาบูลที่ ปฏิเสธไม่ได้เพราะช่วยทำประตูให้ทีมจะเล่นคู่กับ กัลป์ลาสส่วนแดนกลางนั้นไม่มี ทอม ฮัดเดิลสตัน แน่นอน ขณะที่ เจอร์เมน จีนาส เดินออกจากสนามในช่วงครึ่งแรก ปาลาซิออส น่าจะได้โอกาสเล่นอย่างแน่นอน
หงส์ไร้ เจอร์ราร์ด สภาพทีมลิเวอร์พูลยังไม่มี สตีเวน เจอร์ราร์ด ต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากเจ็บโคนขาหนีบนั่นก็ทำให้ รอย ฮอดจ์สัน ซึ่งมาดูฟอร์มสเปอร์สนัดชนะเบรเมน อาจต้องใช้ ราอูล เมย์เรเลส กับ คริสเตียน โพลเซน หรือไม่ก็ ลูคัส เลวา ที่พ้นโทษกลับมาลงสนามได้แล้ว ส่วนแนวรับนั้น โซโต คีร์เกียคอส ยังต้องนั่งรอข้างสนามต่อไป คาร์ราเกอร์กับสเคอร์เทิล เล่นคู่กัน เพราะ เกลน จอห์นสัน กลับมาแล้ว
ข้างหน้า เฟร์นานโด ตอร์เรส ไม่น่ามีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย เช่นเดียวกันกับ เดิร์ก เคาต์, มักซี โรดริเกซ ส่วน โจ โคล แม้หายเจ็บกลับมาไม่น่าจะได้เล่นตัวจริงเพราะ ฮอดจ์สัน ไม่น่าจะเปลี่ยนทีมที่ชนะเวสต์แฮม อย่างแน่นอน คงเป็นชุดนี้แล้วเก็บ โคล ไว้เป็นทีเด็ดข้างสนาม
ที่นี่...ไวท์ ฮาร์ท เลน
ต้องยอมรับว่าฤดูกาลนี้ ทอตแน่มฮอตสเปอร์ สร้างผลงานได้ดีเกินความคาดหวังโดยเฉพาะต้องเล่นสองรายการใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก จนไม่มีผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นโดยภาพรวมของพวกเขา ที่สำคัญการเล่นต่อหน้าแฟนบอลสเปอร์สในไวท์ ฮาร์ท เลน ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการไล่เก็บคะแนนของพวกเขา
ในพรีเมียร์ลีก 7 นัดพลาดท่าแพ้ไป 1 เกมต่อวีแกน 0-1 นอกนั้นเสมอ 3 ชนะ 3 ยิงไป 11 ลูก แต่ในแชมเปี้ยนส์ ลีกชนะรวด 4 เกม รวมรอบเพลย์ออฟยิงไป 13 ลูก เท่ากับในบ้านปีนี้ 11 นัดยิงไป 24 ประตู นับว่าเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมเอามากๆสำหรับสเปอร์ส โดยหัวใจของพวกเขาคือ ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท และ แกเรธ เบล ที่ช่วยกันประสานงานเกมรุกสเปอร์สให้มันต่อเนื่องไหลลื่นและหวังผลได้
กลยุทธ์และผลที่คาด แม้ แฮร์รี เรดแนปป์ มีปัญหานอกสนามเรื่องการโดนภาษีย้อนหลัง แต่ไม่มีผลต่อการทำงานของเขาในสนาม ปีที่แล้วเขาทำให้ทีมสเปอร์สชนะลิเวอร์พูลนัดเปิดสนาม 2-1 มาปีนี้มาพบกันในจังหวะที่สเปอร์สเริ่มติดเครื่องขณะที่ลิเวอร์พูล เริ่มดีขึ้นจากช่วงต้นซีซั่นเยอะทีเดียว
นัดนี้ เรดแนปป์ จะจัดระบบ 4-4-2 แนวรับไม่น่าเปลี่ยนจากชุดชนะ เบรเมนขาดลอย ทั้งเอกอตโต, กัลป์ลาส,คาบูล และ ฮัตตัน กองกลาง ปาลาซิออส กับ โมดริช โดยด้านกว้าง เลนนอน กับ เบล กองหน้าคู่ดูแล้วน่าจะเลือกระหว่าง โรมัน พาฟลิวเชนโก กับ ปีเตอร์ เคราช์ หนึ่งคนเพื่อคู่กับ เจอร์เมน เดโฟ
ทางฝั่งลิเวอร์พูลหลังจากใช้ระบบ 4-4-2 ซึ่ง ฮอดจ์สัน ชอบใช้ในทีมฟูแล่ม แต่กลับลิเวอร์พูลนั้นไม่ค่อยได้ใช้ พึ่งมาพักหลังได้โอกาสใช้แล้วชนะ อย่างเกมล่าสุดชนะทีมเก่าของ เรดแนปป์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูแล้วน่าจะใช้ระบบนี้ ด้วยเพราะ เจอร์ราร์ด เองก็ไม่ได้ลงด้วย
กองหลังยังชุดเดิม จอห์นสัน, คาร์ราเกอร์,สเคอร์เทิล และ คอนเชสกี้ ขณะที่แดนกลาง โพลเซนกับน่าจะเล่นกับ ลูคัส โดย ราอูล อาจขยับไปยืนด้านขวาแล้วให้ เดิร์ก เคาต์ เล่นกองหน้ากับ ตอร์เรส ส่วนทางซ้าย โรดริเกซ
นัดนี้สเปอร์สเน้นเกมรุกด้านกว้างและการเปิดยาวเข้าหากองหน้าเพื่อใช้ความสูงเล่นบอลกับกองหลัง ขณะที่เตะมุม, ฟรีคิกเป็นจุดอันตรายของสเปอร์ส ที่หวังผลได้เช่นกัน ส่วนลิเวอร์พูลจะเล่นเกมด้วยความรัดกุม แน่นอนไม่กล้าเดินเกมมาก ที่สำคัญต้องปิดพื้นที่ริมเส้นการขึ้นบอลของ เบล และ เลนนอน
ดูแล้ว...ความหลากหลายของสเปอร์ส ทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า ทางเดียวที่สเปอร์ส จะทำอะไรหงส์แดงไม่ได้ต้องเป็นเกมที่ ฟาน เดอ ฟาร์ท กับ เบล ไม่มีโอกาสมากนักในเกม ถ้าหงส์หยุดสองคนนี้ได้ โอกาสลุ้นได้แต้มมีทาง
โอกาสเสมอมีค่อนข้างสูงสำหรับเกมคู่นี้
คู่อื่นๆ
วันเสาร์ที่ 27 พ.ย. 2010
Aston Villa v Arsenal เป็นเกมที่แข่งขันก่อนคู่อื่นๆเวลา 19.45 น. เจ้าถิ่นวิลลา ยังรวมตัวกันไม่ติดในยุคของ อุลลิเยร์ ปัญหาคือต้องมาสร้างทีมใหม่ ขณะที่อาร์เซนอลมีปัญหากับตัวหลักเจ็บไม่สมบูรณ์ และกองหลังพลาดง่ายเกินไป แต่เชื่อนัดนี้รัดกุมแน่หลังแพ้มาสองเกมติด แต่คงชนะยากและเหนื่อยสักหน่อย
Bolton v Blackpool โบลตันเล่นในบ้านฟอร์มสุดๆ เดินเกมรุกทั้งภาคพื้นและกลางอากาศได้ดี ส่วนแบลคพูลเริ่มตกลงไปพอสมควร ทีเด็ดในเกมนี้คือข้างหน้าของ โบลตัน เล่นได้ดีมาก น่าจะจัดการ แบลคพูลไม่ยาก
Everton v West Brom ทอฟฟี เอาแน่เอานอนไม่ได้ กองหลังคือปัญหาและเกมรุกก็ไม่ค่อยน่ากลัว ขณะที่เวสต์บรอมเป็นทีมจอมตื๊อ เล่นด้วยยาก นัดนี้ถ้าทอฟฟีประมาทมีโอกาสโดนอีกเช่นกัน ดูแล้วโอกาสเสมอมีค่อนข้างสูง
Fulham v Birmingham ฟูแล่มน่าจะรู้ปัญหาของ เชลซีนัดที่แล้วได้ดีบุกเท่าไหร่ยิงไม่ได้ ขณะที่เบอร์มิงแฮม คือทีมที่เน้นเกมรับไว้ก่อน รัดกุม จะว่าไปสไตล์ของทั้งสองทีมนี้ใกล้เคียงกันคือเล่นบอลดุดัน ใช้การปะทะนำเกม สู้กันด้วยความผิดพลาดคู่แข่ง น่าจะแบ่งแต้มแบบมีสกอร์
Man Utd v Blackburn ไม่น่ามีปัญหาสำหรับความมั่นใจของผีแดง แม้เกมรุกจะยิงยากสักหน่อย เกมของผีแดงอาจไม่หวือหวามาก แต่แน่นอน และหวังผลได้ นัดนี้น่าจะเจาะตาข่ายแบลคเบิร์นไม่ยาก
Stoke v Man City จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า เรือใบสีฟ้า จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน เมื่อเจอเกมวิ่งสู้ฟัดของ สโตค ซึ่งเล่นในบ้านดีมาก โอกาสชนะเป็นของทีมเยือนมากก็จริงแต่ไม่ง่ายเหมือนนัดชนะฟูแล่ม ทีเด็ดคือ รอลี ดีแลบ กับลูกทุ่มไกล
West Ham v Wigan ให้เครดิต วีแกน ว่ายังเล่นเกมรุกน่ากลัวกว่าเจ้าบ้าน ซึ่งต้องใช้ใจเข้าสู้แล้วละครับสำหรับเกมแบบนี้ ถ้าไม่เรียกสปิริตมาสู้ โอกาสพิชิต วีแกน เป็นไปได้ยากสำหรับทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีก
Wolverhampton v Sunderland ความแตกต่างของคู่นี้อยู่ที่ ซันเดอร์แลนด์ มีทีเด็ดในเกมรุกมากกว่าแม้ ดาร์เรน เบนต์ ไม่สมบูรณ์ นัดนี้ให้เครดิตเกมรุกของแมวดำน่าจะบุกชนะ วูล์ฟแฮมป์ตันได้
วันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย. 2010
Newcastle v Chelsea สาลิกาดงเละเทะนัดที่แล้ว เกมนี้เล่นในบ้านดูแล้วไม่น่าจะต้านทานเชลซีที่ต้องการชนะ จากเกมที่กดดันในวันเสาร์เมื่อ แมนฯยูฯ เตะก่อน คาดว่าผีแดงน่าจะชนะแบลคเบิร์น แล้วทำให้เชลซีเล่นยาก ดูเกมที่เล่นกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แล้ว เชลซี ยังมีคุณภาพเหมือนเดิมเพียงแต่ยิงไม่ได้เท่านั้นเอง
นัดนี้ สาลิกาดงจะโดนกี่ลูกเท่านั้นเอง
Tuesday, November 23, 2010
มอยส์ชมเคฮิลล์ฮอต-เสียดายแค่เจ๊า
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน ยกย่อง ทิม เคฮิลล์ กองกลางจอมโขกชาวออสซี่ ที่ยิงประตูให้ทีมเป็นกอบเป็นกำในปีนี้ ล่าสุดซัดอีก 1 ลูก พาทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ขึ้นนำก่อนเสมอกับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไปแบบสนุก 2-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมยอมรับทีมมีปัญหาในแนวรุก ที่กองหน้าไม่ขยันทำประตูสักเท่าไหร่
เคฮิลล์ ซัดให้ทีมออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 6 ก่อนโดน แดนนี่ เวลเบ็ค หัวหอกที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมายิง 2 ลูกให้เจ้าบ้านพลิกนำ 2-1 และเป็น มิเกล อาร์เตต้า ช่วยยิงตีเสมอท้ายเกมให้เจ๊ากันไป 2-2 โดย กุนซือชาวสกอตแลนด์ กล่าวว่า "ผมคิดว่าเรามีทีมที่ดี เราเป็นทีมที่เล่นดี ถึงเราจะขาดประสิทธิภาพในแดนหน้า และยิงประตูได้ไม่มากพอตอนนี้ ขอบคุณ ทิม เคฮิลล์ส ที่ยิงประตูให้เราอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่ดี"
เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด หัวหอกดาวรุ่ง หวุดหวิดยิงประตูชัยให้ทีมในช่วงทดเจ็บ แต่ได้แค่เสียวเท่านั้นทำเอา มอยส์ เสียดายสุดๆ "มันเป็นโอกาสดีในช่วงวินาทีสุดท้าย คุณไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว พูดกันตามตรงเลยนะ ปกติเขายิงได้เสมอ เขายิงได้ประจำลูกแบบนี้ และมันน่าจะเราทำให้เราได้ 3 แต้ม"
เกมนี้ เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูจากมิดฟิลด์ 2 คน และ มอยส์ ยอมรับว่า การที่กองหน้ายิงไม่ได้ เป็นปัญหาใหญ่ "ผมคิดว่าเราพาบอลเข้าไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษได้เยอะ เราเปิดบอลเข้าไป เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่เราฉวยโอกาสไม่ได้เลย และมันส่งผลเสียต่อเรา ผมรู้ว่า ซันเดอร์แลนด์ ก็มีโอกาสครั้งสองครั้ง คุณคาดหวังได้อยู่แล้ว แต่โดยรวมผมผิดหวังที่เราใช้โอกาสบางโอกาสไม่ได้"
แม้จะผิดหวังที่เสมอ และทำให้ทีมไม่ชนะมา 4 นัด แต่ มอยส์ ยังเชื่อว่าทีมสามารถไต่อันดับขึ้นไปได้ "ผมเชื่อว่าเราจะทำผลงานที่ดีได้ในฤดูกาลนี้ และตอนนี้ผมก็ยังเชื่ออยู่ ผมคิดว่าเราอยู่ในสถานะที่จะไต่อันดับขึ้นไปอยู่สูงๆ ได้ และหวังจริงๆ ว่าเราจะทำได้"
ผีมีแผนโละเบิร์บหาทุนล่ายอเรนเต้-ฆาบี
เบอร์บาตอฟออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ได้อย่างร้อนแรง ด้วยการซัดได้ถึง 6 ประตูในการลงสนามให้ปีศาจแดง 6 นัด รวมถึงแฮตทริกในชัยชนะเหนือลิเวอร์พูล 3-2 ด้วย ก่อนจะค่อยๆ แผ่วลงเรื่อย และยังไม่มีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์อีกเลย นับจากปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผิดกับยอเรนเต้กองหน้าฟอร์มฮอตของบิลเบา ที่ยิงได้ต่อเนื่องทั้งในการเล่นระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงมาร์ติเนซซึ่งเป็นกำลังสำคัญของทีมจากแคว้นบาสก์เช่นกัน
อย่างไรก็ดี คาดว่าทางต้นสังกัดน่าจะตั้งค่าตัวของทั้งสองรายไว้สูงถึงระดับ 35 ล้านปอนด์ หรือราว 1,680 ล้านบาท เป็นเหตุให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังพิจารณาผ่องถ่ายเบอร์บาตอฟออกไปเพื่อระดมทุนสำหรับการเสริมทัพ แต่ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไป ก็อาจทำให้ทาง ยูไนเต็ด ต้องยอมขายกองหน้าบัลแกเรียนในราคาขาดทุน ที่ราว 15 ล้านปอนด์ (720 ล้านบาท) โดยมี บาเยิร์น มิวนิค, เฟเนร์บาห์เช่ และยูเวนตุสให้ความสนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีม
สิงห์พักตัวหลัก
"สิงห์บลู" เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษ เตรียมขนตัวสำรองลงสนามยกชุด เนื่องจากทีมได้ผ่านเข้ารอบไปแล้ว ในเกมที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซิลิน่า สโมสรจาก สโลวาเกีย ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม คืนนี้
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ
วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2553เชลซี (อังกฤษ) - ซิลิน่า (สโลวาเกีย)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เกมนี้ค่อนข้างขาดแคลนความหมาย เมื่อ เชลซี ผ่านเข้ารอบได้แล้ว แถมยังรักษาแชมป์กลุ่มได้ด้วย หลังเดินหน้าคว้าชัย 4 เกมรวด ขณะที่ เอ็มเอสเค ซิลิน่า ตกรอบสนิทไปแล้วหลังแพ้ตลอด 4 เกม ที่ยังพอมีลุ้นอยู่คือคว้าอันดับ 3 ไปเล่นยูโรปา ลีก แต่ก็ริบหรี่มากเหลือเกิน
ด้วยการที่เข้ารอบไปแล้ว และทีมกำลังเจอวิกฤตนักเตะบาดเจ็บ ทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน จะปรับทัพอุตลุดส่งแข้งเด็กและตัวสำรอง ลงเล่นหลายราย แม้ว่าฟอร์มช่วงหลังจะออกมาแย่ แพ้เกมลีก 3 จาก 4 นัดหลังสุด โดยเป็นการแพ้ทีมชื่อชั้นต่ำกว่า 2 เกมตอดแล้ว คือ ซันเดอร์แลนด์ และ เบอร์มิงแฮม ซิตี้
การแพ้ 2 นัดติด เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีครึ่งของทีมสิงห์บลูส์ ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2005/06 ที่แพ้ 2 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ให้ แบล็คเบิร์น และ นิวคาสเซิ่ล ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 หลังจากชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 จนรวบแชมป์ฤดูกาลนั้นไปก่อนแล้ว
นักเตะบาดเจ็บสำหรับ เชลซี มีอยู่ร่วมครึ่งทีม จอห์น เทอร์รี่, ยูริ ชีร์คอฟ, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ยอสซี่ เบนายูน ยังคงเล่นไม่ได้ในช่วงนี้ ส่วน อเล็กซ์ กัดฟันฝืนเจ็บเล่นเกมลีกเมื่อวันเสาร์ จะไม่ได้เล่นเช่นกัน แถมเจ้าตัวอาจจะบินกลับบราซิลไปเข้าผ่าตัดด้วย ทำให้ต้องพักอีกนานทีเดียว
ส่วน ไมเคิ่ล เอสเซียง กองกลางกานา ที่ติดแบนในเกมลีก 3 นัด น่าจะถูกส่งลงเล่น เนื่องจากยังเหลือโทษแบนอีก 1 นัดเกมลีก ที่จะต้องพักแข้งอีกครั้งช่วงสุดสัปดาห์
อันเชลิอตติ ยืนยันแล้วว่า โฉมหน้า 11 ตัวจริงจะเปลี่ยนไปจากทีมระยะหลังอย่างมาก นักเตะดาวรุ่งอย่าง โจชัว แม็คอีแครน ได้รับการันตีแล้วว่าจะได้เล่นตัวจริง ขณะที่ รอสส์ เทิร์นบูลล์, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, กาแอล กากูต้า, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ และ เจฟฟรีย์ บรูม่า ก็น่าจะเข้าข่ายด้วย โดยมีสิทธิ์ถอย ยูริ ชีร์คอฟ มารับตำแหน่งแบ็กซ้าย
ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่ยังมีเชื้อมาลาเรียติดตัว และแข้งตัวหลักอย่าง นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, จอน โอบี มิเกล, ปีเตอร์ เช็ก, แอชลี่ย์ โคล, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น่าจะได้พัก
ด้าน เอ็มเอสเค ซิลิน่า แชมป์ลีกสโลวาเกีย คอร์กอน ลีกา 2009/10 เหลือลุ้นแค่คว้าอันดับ 3 เพื่อไปเล่นยูโรปา ลีก แถมเกมลีกล่าสุดยังออกไปแพ้ เอฟเค เซนิก้า 1-2 ด้วยเมื่อวันศุกร์
แต่แม้ว่าจะแทบไม่เหลือลุ้นอะไรแล้ว พาเวล ฮาปาล กุนซือชาวเช็ก ก็น่าจะจัดทีมเต็มสูบ ให้รางวัลกับนักเตะชุดใหญ่ ในทริปเยือนกรุงลอนดอน และลงเตะที่สนามใหญ่อย่าง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่ง ฮาปาล ไม่มีปัญหานักเตะเจ็บหรือแบน
กัปตันทีม โรเบิร์ต เยซ, บาบาตุนเด เบลโล, โทมัส โอราเว็ค, โมโมดู ซีเซย์, วลาดิเมียร์ ไลท์เนอร์, มาริโอ เปซัลก้า ซึ่งเป็นตัวหลักของทีม น่าจะได้ลงเล่นตามเดิม
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : รอสส์ เทิร์นบูลล์ - โชเซ่ โบซิงวา, พาทริค ฟาน อานโฮลท์, เจฟฟรีย์ บรูม่า, ยูริ ชีร์คอฟ - มิชาแอล เอสเซียง, โจชัว แม็คอีแครน, รามิเรส - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, กาแอล กากูต้า, ซาโลมง กาลู
เอ็มเอสเค ซิลิน่า : มาร์ติน ดูบราฟกา - วลาดิเมียร์ ไลท์เนอร์, มาริโอ เปซัลกา, ลูโบเมียร์ กัลดาน, ออนเดรจ์ ซูเร็ค - โรเบิร์ต เยซ, โทมัส โอราเว็ค, อัดเมียร์ วลาดาวิช, สเตฟาน โซซัค, บาบาตุนเด เบลโล - โมโมดู ซีเซย์
ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต ชอร์เกนโฮเฟอร์ (ออสเตรีย)
อันเช่ยันส่งเด็กบู๊ซิลิน่า
คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเชลซี ยืนยันแล้วว่า จะให้โอกาสพวกนักเตะดาวรุ่ง ได้ลงมาบ่มเพาะประสบการณ์ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัด 5 พบ ซิลิน่า ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้วจากการเก็บ 12 แต้มเต็มใน 4 นัด
สถานการณ์แบบนี้ทำให้ "คาร์เล็ตโต้" มีโอกาสทดสอบ 11 ตัวจริง หลังจาก "สิงห์บลูส์" กำลังมีปัญหากับการโชว์ฟอร์มในลีก ซึ่งผลงานพ่ายแพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุด เปิดโอกาสให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำคะแนนขึ้นมาเท่ากับ เชลซี ในตำแหน่งจ่าฝูง
จอช แม็คอีแครน มิดฟิลด์เด็กอายุ 17 ได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริงแล้ว เพราะ อันเชล็อตติ มั่นใจว่านักเตะเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายนี้ และแข้งอายุน้อยคนอื่นๆ ที่ทำผลงานในถ้วยยุโรปได้โดดเด่น อาจมีลุ้นได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกที่ต้องบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย. นี้ด้วย
"จอช จะลงเป็นตัวจริงพบ ซิลิน่า เขาพร้อมเพราะเขามีบุคลิก เขาจะเล่นตำแหน่งสำคัญในสนามในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ผมคิดว่าเขาโชว์ฟอร์มให้ดีได้ เขาสามารถทำหน้าที่นี้ได้ นอกจาก แม็คอีแครน แล้ว นักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ จะได้มีส่วนร่วมในเกม ซิลิน่า ด้วย อย่าง กากูต้า, ฟาน อานโฮลท์, บรูม่า"
"ผมอยากเปลี่ยนหลายอย่างในเกมนี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เราสามารถใช้เกมนี้ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งพัฒนาประสบการณ์ เราจำเป็นต้องเก็บ 1 คะแนน และการคว้าชัยชนะก็เป็นไปได้ ถ้าผมมีโอกาส นี่ก็เป็นแนวทางที่ผมต้องบริหารจัดการสโมสรและทีมนี้ มันมีเกมให้ลงเล่นมากมาย บางครั้งคุณก็ต้องเปลี่ยนแปลง"
กลุ่มอี
02.45 น. โรม่า (อิตาลี) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
02.45 น. บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) - ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย)
กลุ่มเอฟ
00.30 น. สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) - มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
02.45 น. เชลซี (อังกฤษ) - เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเกีย)
กลุ่มจี
02.45 น. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) - เรอัล มาดริด (สเปน)
02.45 น. โอแซร์ (ฝรั่งเศส) - เอซี มิลาน (อิตาลี)
กลุ่มเอช
02.45 น. บราก้า (โปรตุเกส) - อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
02.45 น. ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)
เชสนำทัพ!ปืนเน้นกลางบุกรังบราก้า
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช
วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2553บราก้า (โปรตุเกส) - อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
สนาม : มูนิซิปัล เด บราก้า
สปอร์ติ้ง คลับ เด บราก้า ยังมีลุ้นเข้ารอบพอๆ กับ อาร์เซน่อล เมื่อเก็บไปได้ 6 แต้ม ส่วนทีมปืนโตมี 9 คะแนน หลังเล่นไปแล้ว 4 เกม ทว่า บราก้า ฟอร์มไม่ดีนักในช่วงหลัง แพ้ 4 จาก 5 เกมลีก จนรั้งกลางตาราง กระนั้นก็ได้พักมาเต็มที่ ไม่มีคิวเตะเมื่อสุดสัปดาห์ เกมล่าสุดคือเมื่อ 14 พ.ย.
โดมิงโกส ปาซิเอนซ่า กุนซือบราก้า จะส่งทีมชุดเต็มสูบลงสนาม แกนหลักยังเป็นพวกบราซิเลี่ยนเช่นเดิม ซึ่งทีมชุดปัจจุบันมีแข้งแซมบ้ามากกว่านักเตะโปรตุกีสชัดเจน ที่จำนวน 17 ต่อ 8 นอกจากนั้นยังมีแข้งอิมพอร์ตจาก เปรู, เซเนกัล, แคเมอรูน, ไนจีเรีย, อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ อิสราเอล อย่างละคนด้วย
ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สัปดาห์ก่อน บราก้า ยกพลไปเอาชนะ ปาร์ติซาน 1-0 ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่จะยกชุดเดิมมาเล่นเกมนี้ และเปลี่ยนแค่บางจุด ตัวหลักอย่าง วานดินโญ่, อลัน, มาเตอุส, มอยเซส, เปาโล เซซ่าร์, มอสโซโร่ ซึ่งเป็นแข้งบราซิลทั้งหมด จะลงเล่นตามปกติในระบ 4-3-3
ด้าน อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ สภาพทีมเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่สวนทางกับฟอร์มการเล่น ล่าสุดแพ้คารังต่อคู่แค้น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-3 เท่ากับ 5 นัดหลังทุกรายการ แพ้ไปถึง 3 เกมทีเดียว และในแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สัปดาห์ก่อน ก็บุกไปแพ้ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ด้วย
กระนั้น เดอะ กันเนอร์ส ขอแค่แต้มเดียวเป็นอย่างน้อยจาก บราก้า จะเข้ารอบทันที และยังมีสิทธิ์คว้าแชมป์กลุ่มได้ด้วยถ้าชนะ บราก้า แล้ว ชัคเตอร์ แพ้ ปาร์ติซาน ในเวลาเดียวกัน
เวนเกอร์ เหลือรายชื่อนักเตะบาดเจ็บแค่ มานูเอล อัลมูเนีย (ข้อศอก), โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย), อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) และ อารอน แรมซี่ย์ (ขาหัก)
แต่ล่าสุด กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายฝรั่งเศส เจ็บแผ่นหลังเพิ่มไปอีกคน หน้าที่สำหรับเกมนี้จะเป็น คีแรน กิ๊บบ์ส แน่นอน
11 ตัวจริงจะปรับเปลี่ยนจากเกมล่าสุดพอสมควร แจ็ค วิลเชียร์ ที่เจ็บจากทีมชาติ และไม่ได้เล่นกับ สเปอร์ส จะแทรกลงตัวจริง จับคู่แดนกลางกับ เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีม เบียด เดนิลสัน กลางแซมบ้า กลับนั่งสำรอง
ตำแหน่งหัวหอกมีการยืนยันแล้วว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์ กับ อังเดร อาร์ชาวิน กองหน้ารัสเซีย จะได้พัก โดยมีโอกาสสูงที่ มารูอาน ชามัค จะยืนหน้าเป้าตัวเดียว
ในรายของ นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้าเดนมาร์ก ที่โดนลงโทษตัดพ้นทีมหลังออกอาการหืออือ ได้กลับมาอยู่ในทีมแล้ว แต่ก็จะยังเป็นสำรองเท่านั้น
แนวรับ ยกเว้น กลิชี่ ก็จะไม่เปลี่ยนแม้ล่าสุดจะโดนเจาะ 3 ตุง ใช้ชุดเดิมคือ ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ และ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ เสริมด้วย คีแรน กิ๊บบ์ส
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บราก้า : หลุยส์ เฟลิเป้ - อัลแบร์โต้ โรดริเกซ, มอยเซส มูร่า, เอลแดร์สัน เอเชียจิเย่, จอร์จ ลูคัส - วานดินโญ่, กิเยร์เม่, มอสโซโร่ - อลัน ซิลวา, มาเตอุส นาสซิเมนโต้ , เปาโล เซซ่าร์
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, คีแรน กิ๊บบ์ส - ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์, ธีโอ วัลค็อตต์ - มารูอาน ชามัค
ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คัสไซ (ฮังการี)
เชสเตือนปืนห้ามประมาทบราก้าเด็ดขาด
เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม อาร์เซน่อล ออกปากเตือนเพื่อนร่วมทีม อย่าประมาทในการบุกเยือน บราก้า รองแชมป์ลีกโปรตุเกส ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่มเอช นัดที่ 5 ในวันอังคารที่ 23 พ.ย.นี้ แม้ว่าเคยไล่ถล่ม 6-0 ที่รังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในนัดแรกก็ตาม
ทัพ "ปืนใหญ่" ออกไปพ่าย ชัคเตอร์ โดเนทส์ค 2-1 ที่ยูเครน ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดล่าสุด ทำให้ห้องเครื่องทีมชาติสเปน คิดว่าพวกตนไม่ควรประเมิน บราก้า ต่ำเกินไป "เราเหลืออีก 2 เกมในกลุ่ม ซึ่งยากทั้งคู่ โดยเฉพาะเกมเยือน บราก้า แต่เราจะพยายามเป็นแชมป์กลุ่มให้ได้ เราจะทำให้ดีที่สุด ถ้าเราเล่นฟุตบอลแบบที่เรารู้จัก มีสมาธิ 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่ประมาทคู่แข่ง ผมมั่นใจว่าเราจะเป็นแชมป์กลุ่มได้"
ฟาเบรกาส เชื่อว่า บราก้า จะแตกต่างออกไปเมื่อเล่นในโปรตุเกส "การเล่นในสนามของพวกเขาเอง ต่อหน้าแฟนบอลของพวกเขา เหมือนที่เรารู้ว่า ชัคเตอร์ จะต่างจากทีมที่เราเจอที่เอมิเรตส์ เมื่อเดือนที่แล้ว และเพื่อให้เป็นธรรมกับพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขาเล่นได้ดี แต่มันขึ้นอยู่กับเรา เป็นความผิดพลาดของเราที่ปล่อยให้พวกเขากลับมาสู่เกม"
"เราต้องรักษาการครองบอลให้ดีกว่านี้ และคุมเกมให้ได้ แต่เราทำไม่ได้ และตอนท้ายเราต้องชดใช้ ผู้จัดการทีมพูดเหมือนเดิมหลังจบเกม เมื่อเราขึ้นนำ เราผ่อนเกมมากเกินไป เราเพิ่งยิงพวกเขาไป 5 ประตู เราเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม และบางทีเราคงคิดว่าแค่เสมอก็เป็นผลการแข่งที่ดีแล้ว แต่ในฟุตบอล คุณจะนิ่งนอนใจไม่ได้ คุณต้องไม่ปิดสวิตช์ ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องชดใช้ ไม่ว่าคุณจะเล่นกับใคร"
เบนท์เนอร์คัมแบ็กปืนเยือนบราก้า
นิคลาส เบนท์เนอร์ หัวหอกทีมชาติเดนมาร์ก ได้รับการันตี จะกลับมาอยู่ในทีม อาร์เซน่อล นัดบุกเยือน บราก้า ที่โปรตุเกส จากการยืนยันของ อาร์แซน เวนเกอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา
ดาวยิงวัย 22 ถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล จับดองข้างสนาม หลังจากแสดงอาการฮึดฮัดบอกจะย้ายทีมถ้าไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงมากกว่านี้ และล่าสุด เบนท์เนอร์ ซึ่งเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ก็ต้องหลุดจากทีมชุดที่เปิดบ้านแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
"เขายังไม่ฟิตพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ใกล้มากแล้ว เขาจะกลับมาอยู่ในทีมสำหรับเกมวันอังคารนี้" เวนเกอร์ กล่าว
02.45 น. โรม่า (อิตาลี) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
02.45 น. บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) - ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย)
กลุ่มเอฟ 00.30 น. สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) - มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
02.45 น. เชลซี (อังกฤษ) - เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเกีย)
กลุ่มจี
02.45 น. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) - เรอัล มาดริด (สเปน)
02.45 น. โอแซร์ (ฝรั่งเศส) - เอซี มิลาน (อิตาลี)
กลุ่มเอช 02.45 น. บราก้า (โปรตุเกส) - อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
02.45 น. ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)
เมยเรเลสโวปรับตัวลีกผู้ดีได้แล้ว
ราอูล เมยเรเลส กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าตอนนี้เขาปรับตัวเข้ากับการเล่นฟุตบอลในเมืองผู้ดีแล้ว พร้อมมั่นใจจะสามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าแน่นอน
ดาวเตะเลือดฝอยทองย้ายจาก ปอร์โต้ มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อช่วงสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรก แต่นักเตะต้องพบกับปัญหากับการเล่นในอังกฤษพอสมควร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในแมตช์ถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ทำให้ เมยเรเลส มั่นใจว่าตอนนี้สามารถปรับตัวได้แล้ว
มิดฟิลด์วัย 27 ปี กล่าวว่า "ผมรู้ว่าทีมเริ่มต้นได้ไม่ดีตอนที่ผมเซ็นสัญญาครั้งแรก แต่คุณค่อยๆ เห็นสิ่งที่เราทำได้ในช่วง 4 เกมที่ผ่านมา เราพลาดแค่ 2 แมตช์ แต่เรากลับมาได้ในเกมกับ เวสต์แฮม เกมพรีเมียร์ลีกมันยากลำบาก และมันก็เป็นเรื่องยากที่เล่นในอังกฤษ เพราะทุกทีมที่คุณต้องสู้ทำผลงานได้ดี"
"มีการแข่งขันที่เข้มข้น แต่ผมรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง หลายๆ สิ่งก็ดีขึ้นเสมอ และนักเตะทุกคนก็ช่วยผมตลอด เราเล่นได้ดีพอสมควรในแมตช์พบ เวสต์แฮม เราจะทำงานหนักต่อไป และผมหวังว่าฟอร์มของผมจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ"
นอกจากนี้ เมยเรเลส ยังตั้งเป้าช่วยนำ "หงส์แดง" ทะยานขึ้นไปติด 1 ใน 4 ให้ได้ "เรามีแนวทางของเราที่จะกลับขึ้นไปในลีกอีกครั้ง เราทำงานหนักทุกวันเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้ทุกเกมที่เราลงเล่น แต่บางครั้งมันก็ไม่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องน่ายินดีในเกมพบ เวสต์แฮม ที่เราแสดงให้เห็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเรา และทุกคนในทีมก็ทำผลงานได้ดีมาก"
"ผมรู้สึกสบายๆ ในการเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ผมพร้อมที่จะเล่นตรงไหนก็ได้ที่ผู้จัดการทีม (รอย ฮ็อดจ์สัน) ต้องการให้ผมเล่น นั่นเป็นงานของผม และผมทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล และช่วยทีมได้" ดาวเตะชาวโปรตุกีส ระบุ
