บอร์ดผียันเปล่าดูดเงินสโมสรใช้หนี้
ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่า ไม่ได้นำเงินสดออกมาจากสโมสร เพื่อนำไปชำระหนี้ราว 220 ล้านปอนด์ (ประมาณ 10,560 ล้านบาท) ที่จะครบกำหนดชำระวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ หลังจากกู้ยืมเงินมาซื้อทีมดังแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005
เงินที่ยืมมา ซึ่งมีดอกเบี้ยราว 16.25 เปอร์เซ็นต์ ทำให้แฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" ออกอาการโมโหเจ้าสัวชาวมะกัน นับตั้งแต่เข้ามากุมอำนาจ "ปีศาจแดง" และในรายงานการเงินล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตระกูลเกลเซอร์ ไม่ได้ยืนยันถึงการชำระหนี้เงินกู้ เพียงแต่ประกาศว่า จะไม่นำเงินออกมาจากสโมสรเท่านั้น
แถลงการณ์ของบอร์ดบริหาร "เร้ด เดวิลส์" ระบุว่า "บอร์ดทราบดีถึงกระแสข่าวลือเมื่อไม่นานมานี้ และบอร์ดสามารถยืนยันได้ว่า ไม่มีการแบ่งแยกเงินสดของสโมสรออกมาใช้อย่างแน่นอน"
กระนั้น แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างต้องการจะรู้ว่า มหาเศรษฐีจากเมืองลุงแซม จะหาเงินมาชำระหนี้ได้อย่างไร โดย ดันแคน แดรสโด ประธานบริหารกลุ่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัพพอร์ตเตอร์ส ทรัสต์ เผยว่า "ตอนนี้มันเป็นเวลาที่พวก เกลเซอร์ จะต้องสร้างความชัดเจน และบอกความจริงว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแผนการของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขาปิดบังอะไรอยู่? จะต้องไม่มีความลับอีกต่อไป ไม่มีการปั่นหัวอีกต่อไป แค่บอกความจริงแฟนๆ เท่านั้น"
แม้จะมีการชำระหนี้ดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ปลอดหนี้สิน เหมือนช่วงก่อนหน้าที่ตระกูลเกลเซอร์ จะเข้ามาเทกโอเวอร์แต่อย่างใด โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีนั้น บริษัท เร้ด ฟุตบอล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสโมสร มีหนี้สินลดลงจาก 521.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25,041.6 ล้านบาท) เหลือ 509.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,451.2 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสารฟอร์บส์ ได้ประเมินว่า รองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีปีก่อน มีมูลค่าทรัพย์สินราว 1.8 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 86,400 ล้านบาท) ซึ่งทำให้กลายเป็นทีมฟุตบอลที่มีอันดับมูลค่าสูงสุดในโลกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน
Post a Comment