ไก่เซ็งโดนแมวตีตี1-1,สโต๊คฮึดทุบลูกโลก3-2

        สเปอร์ส ทำแฟนบอลเซ็งหลังจากที่ทำได้เพียงแค่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ในบ้านตัวเอง ด้าน สโต๊ค ซิตี้ เปิดรังเฉือนเอาชนะ เบอร์มิ่งแฮม สุดมัน 3-2 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา 

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 
วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2553 สโต๊ค ซิตี้ 3 - 2 เบอร์มิ่งแฮม

สนาม: บริทาเนีย สเตเดี้ยม

  
     "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ให้ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ เคนวีน โจนส์ ส่วน เบอร์มิ่งแฮม ให้ นิโกล่า ซิกิช ดาวยิงร่างยักษ์ชาวเซิร์บ ยืนเป็นคู่หัวหอกร่วมกับ คาเมรอน เจอโรม
  
     ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 7 นาที ทีมเยือนมีโอกาสก่อนจากจังหวะที่ เบน ฟอสเตอร์ เตะเปิดยาวขึ้นมา เคร็ก การ์ดเนอร์ เก็บบอลได้ก่อนชิ่งคืนให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน วอลเลย์เต็มเท้าข้ามคานนิดเดียว
  
     ถัดมาเจ็ดนาทีเจ้าถิ่นตอบโต้น่ากลัวเมื่อ เจอร์แมน เพนแนนท์ กระชากขึ้นมาทางขวาก่อนโยนเข้ามาหน้าประตู โรเจอร์ จอห์นสัน โขกเคลียร์ไม่ดีเช็ดมาเข้าทาง เคนวีน โจนส์ โขกจ่อๆหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย 
  
     ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 4 นาที สโต๊ค ได้ลุ้นจากจังหวะที่ เจอร์แมน เพนแนนท์ โยนลูกเตะมุมจากทางซ้ายเข้ามาให้ เคนวีน โจนส์ โขกบอลมาเข้าทางของ ฟูลเลอร์ ที่ได้โขกซ้ำจ่อๆแต่ทาง ฟอสเตอร์ ปัดออกหลังไป
  
     อย่างไรก็ตาม ช่างปั้นหม้อ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ ดีน ไวท์เฮด จ่ายจากซ้ายเข้ากลาง ฟูลเลอร์ เกี่ยวบอลมายิงติดบล็อกกองหลังกระเด้งมาเข้าทาง โรเบิร์ต ฮูธ กลับตัวยิงผ่าน ฟอสเตอร์ นายทวารทีมเยือนเข้าไปให้สโต๊ค ขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อหมดครึ่งเวลาแรก 
  
     ครึ่งหลังนาทีที่ 50 เจ้าบ้านมาได้ลูกเตะมุมทางขวา เอเธอริงตัน รับหน้าที่สาดเข้ามากลางประตู ฮูธ ขึ้นโขกได้ก่อนกองหลังทีมเยือนบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไป
  
     ทีมตราลูกโลก ได้ลุ้นในนาทีที่ 56 จากลูกโยนยาวมา นิโกล่า ซิกิช โขกในจังหวะแรกบอลไปโดนกองหลังเจ้าถิ่นแต่กองหน้าเซิร์บยังตามมาโขกให้ คาเมรอน เจอโรม พลิกหนี ฮิกกิ้นบ็อตธอม แล้วกดด้วยซ้าย อัสเมียร์ เบโกวิช ต้องล้มตัวเซฟเอาไว้
  
     นาทีที่ 65 ทีมเยือนน่าได้จริงๆ เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดลูกเตะมุมจากทางขวามาให้ โรเจอร์ จอห์นสัน โขกเต็มหัวบอลพุ่งแรงแต่ เบโกวิช ยังบินปัดออกหลังไปได้เยี่ยม
  
     นาทีที่ 71 เจอโรม หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางบอลโดน ฮิกกิ้นบ็อตธอม ก่อนไหลไปโดนเสาแล้วมาเข้าทาง ซิกิช ซัดไปติดบล็อก
  
     แต่ถัดมานาทีเดียวเจ้าถิ่นนำห่าง 2-0 จากลูกสวนขึ้นมา ฟูลเลอร์ โซโล่เดี่ยวขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะหักเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองสวยงาม
  
     ทีมเยือนไม่ยอมได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 74 จากความผิดพลาดของ  ฮิกกิ้นบ็อตธอม สกัดมาเข้าทาง คีธ ฟาฮีย์ กดสวนไม่เหลือมห้ทีมไล่มา 1-2
  
     และแล้วนาทีที่ 76 สกอร์ก็ไหลมาเท่ากัน 2-2 เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดบอลจากขวาเข้ามาใก้ เจอโรม โขกเสียบเสาเข้าไปไม่เหลือ
  
     หลังโดนตีเสมอ เจ้าถิ่นกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง แล้วก็มาได้มาได้ประตูชัยในนาที 85 จากจังหวะที่ เอเธอริงตัน หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนไหลเข้ากลางกองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีบอลไปเข้าทาง ดีน ไวท์เฮด กดเข้าไปให้ทีมเอาชนะ 3-2 เก็บสามแต้มเต็ม
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
     สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช - แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแธ่ม, โรเบิร์ต ฮูธ, อับดูลาย ฟาย, แดนนี่ คอลลินส์ - เจอร์เมน เพนเนนท์, รอรี่ ดีแล็ป, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, เคนวีน โจนส์ 
     สำรอง : โธมัส โซเรนเซ่น (ผู้รักษาประตู) - แอนดี้ วิลกินสัน, ตุนกาย ซานลี่, โจนาธาน วอลเตอร์ส, เกล็นน์ วีแลน, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, มาร์ค วิลสัน
  
     เบอร์มิ่งแฮม : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, สกอตต์ แดนน์, เลียม ริดจ์เวลล์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ฌอน โบเซฌูร์ - นิโกล่า ซิกิช, คาเมรอน เจอโรม 
     สำรอง : โคลิน ดอยล์ (ผู้รักษาประตู) - สจ๊วร์ต พาร์นาบี้, คีธ ฟาฮีย์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, ลี โบว์เยอร์, เควิน ฟิลลิปส์, แม็ตต์ ดาร์บี้เชียร์ 
  
     ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคล็ตเตนเบิร์ก

สเปอร์ส 1 - 1 ซันเดอร์แลนด์

สนาม : ไวท์ ฮาร์ทเลน

     ที่สนามไวท์ ฮาร์ทเลน สเปอร์สซึ่งแพ้โบลตันนัดก่อนได้ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทฟิตทันเวลา และส่งเดวิด เบนท์ลีย์ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกนัดแรกในรอบเกินกว่าหกเดือน
  
     รวมแล้วทีมตราไก่ปรับโผสี่รายโดยเลือกใช้งานโรมัน พาฟลิวเชนโก้ก่อนหน้าปีเตอร์ เคราช์ และมีทอม ฮัดเดิลสตันรับบทกัปตัน
  
     ด้านซันเดอร์แลนด์ที่นัดล่าสุดคว่ำสโต๊คได้สลับให้ตัวสำรองลงบู๊เพื่อเน้นความสดตามที่กุนซือสตีฟ บรู๊ซเผยเอาไว้ก่อนแล้วโดยมีไตตัส แบรมเบิ้ลพ้นโทษแบน ขณะที่เคร็ก กอร์ดอนก็ได้กลับมาเฝ้าประตู แต่ดาร์เรน เบนท์กองหน้าผิวสีเดี้ยง
  
     สเปอร์สเดินเกมรุกทันที และนาทีที่ 3 ลูก้า โมดริชก็ได้โอกาสกระทุ้งจากหน้าเขตโทษ แต่ถูกกอร์ดอนพุ่งปัดได้
  
     ถัดมาอีกสามนาที พาฟลิวเชนโก้ก็ลองลากบอลขึ้นมาตะบันจากระยะ 30 หลา แต่หลุดเสาออกไปแบบพอได้ลุ้น
  
     จากนั้นในนาทีที่ 9 แมวดำก็ทำเสียวได้เช่นกันเมื่อลี แคตเตอร์โมลกระชากบอลหนีการไล่ล่าของฮัดเดิลสตันเข้ามาสับไกแถวหน้าเขตโทษเฉี่ยวกรอบออกไปไม่เยอะ
  
     ทีมตราไก่เริ่มเร่งเครื่อง และมาได้ลูกเตะมุมในนาทีที่ 18 โดยแอนทอน เฟอร์ดินานด์เคลียร์ไม่ขาด  ไปเข้าทางปืนให้ฮัดเดิลสตันกระทุ้งสวนมาจากระยะ 25 หลา แต่บอลลอยไปชนสามเหลี่ยม
  
     และในนาทีเดียวกันนี้ แบล็คแคตส์ก็ต้องเปลี่ยนตัวสำรองอย่างรวดเร็วเมื่อเฟอร์ดินานด์มีปัญหาบาดเจ็บ เดินออกจากสนามให้ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ลงไปแทน
  
     ล่วงมาสู่นาทีที่ 34 สเปอร์สซึ่งได้บุกแทบข้างเดียวก็มีลุ้นอีกหนจากจังหวะที่ฟาน เดอร์ ฟาร์ททำชิ่งจนหลุดเข้าไปสับไกในเขตโทษด้านขวา ทว่ากอร์ดอนปิดเสาแรกอยู่จึงปัดทิ้งได้สำเร็จ
  
     ถัดมาอีกสามนาที เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกแถวริมเขตโทษด้านซ้ายหลังแกเร็ธ เบลถูกเนดุม โอนัวฮาแหย่ขาสกัดล้ม เบนท์ลีย์จึงวิ่งเข้าปั่นไปเสาไกล แต่กอร์ดอนยังผวาปัดได้เยี่ยม
  
     ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เบนท์ลีย์เลื้อยขึ้นมาทางขวาแล้วลากตัดเข้ามาส่องด้วยเท้าซ้ายบริเวณหน้าเขตโทษ แต่ถูกกอร์ดอนปัดหลุดเสาแรกอีกตามเคย ครบ 45 นาทีแรกทีมตราไก่จึงจิกแมวดำไม่ลงเจ๊ากันไป 0-0 
  
     ครึ่งหลัง กุ๊กไก่เปลี่ยนพาฟลิวเชนโก้ออกให้เคราช์ลงสนาม ขณะที่ซันเดอร์แลนด์ส่งแดนนี่ เวลเบ็คลงไปแทนคริสเตียน ริเวรอส
  
     กระทั่งนาทีที่ 51 เจ้าถิ่นก็พลาดการได้ประตูอย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออลัน ฮัตตันเติมเกมขึ้นมาทางขวาแล้วสาดบอลเข้าเขตโทษให้ฟาน เดอร์ ฟาร์ทโขกระยะ 12 หลา แต่บอลตกพื้นแล้วกระดอนไปชนเสาไกล
  
     นาทีต่อมา เบนท์ลีย์อาศัยความเร็วพลิ้วเข้าเขตโทษแล้วล้มในจังหวะที่เบาเดอไวน์ เซนเด้นตามมาสไลด์  แต่ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ปีกสเปอร์สโดยมองว่ากองกลางแมวดำยั้งเท้าเอาไว้แล้วขณะที่เบนท์ลีย์เจตนาทิ้งตัว
  
     นาทีที่ 58 สาวกไก่ก็ต้องครางฮืออีกจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของเบนท์ลีย์ที่ฟาน เดอร์ ฟาร์ทได้โขกกดลงพื้นจากหกหลา ทว่ากอร์ดอนผวาปัดได้อย่างน่าใจหายใจคว่ำ
  
     กระนั้นก็ดี นาทีที่ 64 สเปอร์สก็ทำสำเร็จจนได้จากจังหวะที่เบลตักบอลยาวจากกราบซ้ายลึกไปเสาไกลแล้วเคราช์โขกตั้งกลับมาหน้าประตูโดยกอร์ดอนพลาดออกไปตัดบอลไม่ถึง จึงเปิดโอกาสให้ฟาน เดอร์ ฟาร์ทพักอกก่อนพลิกตัวยิงจากสามหลาไม่เหลือพาไก่เดือยทองนำ 1-0
  
     แต่แล้วอีกแค่สามนาที เจ้าบ้านก็พลาดท่าง่ายๆเมื่อเวลเบ็คลากบอลจากกราบซ้ายตัดเข้ามาแทงขึ้นหน้าแล้ววิลเลี่ยม กัลลาสกับยูเนส กาบูลออกลูกเฟอะฟะพร้อมกันเข้าบอลวืดทั้งคู่ จึงทำให้อซาโมอาห์ กียานหลุดเดี่ยวเข้าแปตุงตาข่ายจาก 16 หลาช่วยให้ทีมเยือนตีเสมอ 1-1
  
     จากนั้นในนาทีที่ 70 เกมก็เดือดเมื่อลี แคตเตอร์โมลออกลูกเกเรเข้าสไลด์บอลแย่งกับลูก้า โมดริชแล้วมียกขาค้างแถม นักเตะของทั้งสองฝ่ายจึงกรูกันเข้ามาผลักอกกันชุลมุนก่อนที่ผู้ตัดสินจะห้ามทัพทันและแจกใบเหลืองให้มิดฟิลด์แบล็คแคตส์
  
     ท้ายเกม ทีมตราไก่โหมบุกเป็นพัลวัน แต่ซันเดอร์แลนด์ช่วยกันตั้งรับได้เหนียวแน่น จบเกมทั้งคู่จึงเสมอกันไปด้วยสกอร์ 1-1
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมซ , อลัน ฮัตตัน , ยูเนส กาบูล , วิลเลี่ยม กัลลาส , เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ , เดวิด เบนท์ลีย์ , ทอม ฮัดเดิลสตัน , ลูก้า โมดริช , แกเร็ธ เบล , ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, โรมัน พาฟลิวเชนโก้ 
     สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่ , เจอร์เมน จีนาส , วิลสัน ปาลาซิออส , ปีเตอร์ เคราช์ ,นิโก้ ครานชาร์ , เวดราน ชอร์ลูก้า
  
     ซันเดอร์แลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน , เนดุม โอนัวฮา ,  ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ , ไตตัส แบรมเบิ้ล , แอนทอน เฟอร์ดินานด์ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลี แคตเตอร์โมล , คริสเตียน ริเวรอส , คีแรน ริชาร์ดสัน , เบาเดอไวน์ เซนเด้น , อซาโมอาห์ กียาน 
     สำรอง : ซิมง มิลโญเล่ต์ , ฟิลลิป บาร์ดสลีย์  , สตีด มาลบร็องก์ , มาร์กอส อังเกเลรี่ , เปาโล ดา ซิลวา , แดนนี่ เวลเบ็ค , อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้
    
     ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์