ปืนยิ้มแข้งหลักพร้อมชนไก่,สิงห์จุกขาดเพียบบุกลูกโลก

        "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล จะได้แข้งตัวหลักพร้อมกลับมาลงสนามในเกมที่จะเปิดรังทำศึก "ลอนดอนดาร์บี้" กับ สเปอร์ส อีกคู่ เชลซี ขาดผู้เล่นตัวหลักเพียบในการบุกไปเยือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553อาร์เซน่อล - สเปอร์ส

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

  
     อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส เริ่มทะยอยได้รับข่าวดีก่อนเกมนี้ เมื่อ แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางดาวรุ่ง พร้อมช่วยทีมตามเดิม หลังหายเจ็บบริเวณหลัง ที่ทำให้ต้องถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ ชุดอุ่นเครื่องกับ ฝรั่งเศส กลับมาแล้ว
  
     แนวรับสมบูรณ์ขึ้น เมื่อ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวฝรั่งเศส พ้นโทษแบน 2 นัดกลับคืนสนาม ขณะที่ นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้าร่างใหญ่ ที่พลาดเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เพราะเจ็บโคนขาหนีบ ก็น่าจะฟิตกลับมาเป็นตัวสำรองได้
  
     เท่ากับว่าเวลานี้ เวนเกอร์ ยังชวดใช้งานแค่ มานูเอล อัลมูเนีย (ข้อศอก), โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย), อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) ขณะที่ อารอน แรมซี่ย์ กองกลางดาวรุ่งที่ขาหัก ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว
  
     ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, เชส ฟาเบรกาส คู่กองหน้าใช้ อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค
  
     ด้าน แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือ ไก่เดือยทอง ได้รับข่าวดี เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าตัวเก่ง ฟิตสมบูรณ์กลับมาอยู่ในทีมแล้ว หลังผ่าตัดข้อเท้าพักยาว และต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมเรียกความฟิตอยู่เกือบ 1 เดือนเต็มๆ
  
     แต่ปัญหาลูกทีมบาดเจ็บของ จ่าแฮร์รี่ ยังคงท่วมหัว ล่าสุด นิโก้ ครานชาร์ ที่เพิ่งยิงสองประตูให้ทีมชาติโครเอเชีย บาดเจ็บน่องกลับมา ต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่ อารอน เลนน่อน ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังมีลุ้นสำหรับเกมนี้ หากเช็กความฟิตผ่าน
  
     ในรายที่พลาดลงเล่นแน่ๆ มี ร็อบบี้ คีน (ข้อเท้า), โจวานี่ ดอส ซานโต๊ส (โคนขาหนีบ), ทอม ฮัดเดิลสตัน (ข้อเท้า), เลดลี่ย์ คิง (โคนขาหนีบ), ไมเคิ่ล ดอว์สัน (เข่าและข้อเท้า), เจมี่ โอฮาร่า (หลัง) และ โจนาธาน วู้ดเกต (โคนขาหนีบ)
  
     ระบบการเล่น 4-4-2 เอเรลโญ่ โกเมส ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ อลัน ฮัตตัน, ยูเนส กาบุล, วิลเลี่ยม กัลลาส, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แดนกลางมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เจอร์เมน จีนัส, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล คู่กองหน้าใช้ เจอร์เมน เดโฟ ยืนคู่ ปีเตอร์ เคร้าช์
  
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, เชส ฟาเบรกาส - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค
  
     สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส - อลัน ฮัตตัน, ยูเนส กาบุล, วิลเลี่ยม กัลลาส, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เจอร์เมน จีนัส, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล - เจอร์เมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคร้าช์
  
     ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

ปืนข่ม! ควักสถิติสวยหรูดวลไก่

     สถิติการพบกันในเกมลอนดอนดาร์บี้ระหว่าง อาร์เซน่อล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ค่อนข้างห่างชั้นกันพอสมควร โดยเฉพาะการพบกันในบ้านของ เดอะ กันเนอร์ส
  
     ไก่เดือยทอง เพิ่งเอาชนะเกมลีกที่ไปเยือน ปืนใหญ่ ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมที่ ไฮบิวรี่ เมื่อปี 1993 ครั้งนั้น สเปอร์ส บุกชนะ 3-1 โดยผลงานรวมทั้งหมด 11 นัดหลังสุด ปืนใหญ่ เก็บได้ถึง 29 คะแนนจากความเป็นไปได้ทั้งหมด 33 คะแนน
  
     นอกจากนี้ ชัยชนะของ สเปอร์ส เหนือ อาร์เซน่อล 2-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ยังเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 21 นัดหลังสุดในลีกด้วย ขณะเดียวกัน 23 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่ทั้งคู่พบกัน ไก่เดือยทอง ไม่เสียประตูแค่เกมเดียวเท่านั้น

เบอร์มิงแฮม - เชลซี

สนาม : เซนต์ แอนดรูว์ส

     อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือ ลูกโลก ไม่ชนะใครในลีกมา 4 นัดติดต่อกันแล้ว ทำให้อันดับในตารางรูดไปอยู่โซนตกชั้น แต่นัดล่าสุดก็ทำผลงานได้ดีทีเดียว เมื่อบุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ 0-0 สัปดาห์ก่อน
  
     ปัญหาของทีมอยู่ที่อาการบาดเจ็บของ เคร็ก การ์ดเนอร์ กองกลางดาวซัลโวที่เจ็บข้อเท้าจากเกมที่ แมนเชสเตอร์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่ง ลี โบว์เยอร์ มิดฟิลด์พันธุ์ดุ พร้อมสแตนด์บายอยู่แล้ว
  
     นอกจาก แม็คลีช จะรอรายงานอาการบาดเจ็บของ การ์ดเนอร์ จากทีมแพทย์แล้ว กุนซือชาวสกอตต์ยังต้องเช็กสภาพความฟิตของแข้งทีมชาติหลายต่อหลายรายที่เพิ่งกรำศึกกลางสัปดาห์มาด้วย
  
     ระบบการเล่น 4-4-2 เบน ฟอสเตอร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ สตีเฟ่น คาร์, สกอตต์ แดนน์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์ แดนกลางมี เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบวเยอร์, คีธ ฟาเฮย์ คู่หน้ายังใช้ นิโกล่า ซิกิช ยืนคู่ คาเมรอน เจอโรม
  
     ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม สะดุดพ่าย ซันเดอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ก่อนนัดเดียว ทำให้ทีมที่ตามมาอย่าง อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ตูดมากระชั้นชิดแล้ว
  
     อันเชล็อตติ จำเป็นต้องเรียก อเล็กซ์ ปราการหลังบราซิล กลับมาคุมเซนเตอร์ฮาล์ฟ และเลื่อนกำหนดการผ่าตัดเข่าออกไป เนื่องจาก จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม ยังมีปัญหาที่เส้นประสาทขา หมดสิทธิ์ลงสนามเหมือนเดิม
  
     แดนกลาง ยูริ เซียร์คอฟ บาดเจ็บกล้ามเนื้อน่อง หมดสิทธิ์ลงเล่นเกมนี้ ทำให้ คาร์เล็ตโต้ มึนตึบทีเดียว เพราะ ไมเคิ่ล เอสเซียง ติดโทษแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 นัด และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เจ็บกล้ามเนื้อต้องพักอีก 2 สัปดาห์
  
     เวลานี้ อันเชล็อตติ ประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงได้แล้ว 8 ตำแหน่ง ขาดอีกเพียงสามตำแหน่งคือแบ็กขวาที่ต้องเลือกระหว่าง โชเซ่ โบซิงวา กับ เปาโล แฟร์ไรร่า, เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ยังต้องรอเช็กฟิตของ อเล็กซ์ และแดนกลางที่อาจต้องถอย ฟลอร็องต์ มาลูด้า ลงไปเล่น
  
     ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอร็องต์ มาลูด้า แดนหน้าใช้สามประสาน ซาโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
  
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเฟ่น คาร์, สกอตต์ แดนน์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบวเยอร์, คีธ ฟาเฮย์ - นิโกล่า ซิกิช, คาเมรอน เจอโรม
  
     เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ซาโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
  
     ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์

สิงห์ไร้พ่ายลูกโลกตลอด 17 นัดติด

     เชลซี มีผลงานยอดเยี่ยมในการพบกับ เบอร์มิงแฮม ตลอด 17 นัดหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ สิงโตน้ำเงินคราม ไม่แพ้ ลูกโลก เลย แถมยังกวาดชัยชนะได้มากถึง 12 นัด และเสมอ 5 นัด
  
     17 นัดหลังสุด แบ่งเป็นเกมลีก 16 นัด และเกมเอฟเอ คัพ 1 นัด ซึ่งต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา ขณะเดียวกันทั้งคู่เพิ่งเจอกันในลีกสูงสุดตอนเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกแล้วเพียงแค่ 6 ฤดูกาลเท่านั้น โดยครั้งสุดท้าย ที่ เบอร์มิงแฮม ยัดเยียดความปราชัยให้ เชลซี ได้ ต้องย้อนกลับไปปี 1980 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
  
     ผลงานการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 ที่ เซนต์ แอนดรูว์ส ก่อนที่ สิงโตน้ำเงินคราม จะเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่มยับ 3-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า ยิงประตูแรก ก่อนที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะเบิ้ลสองประตูปิดท้าย

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ19.45 น. อาร์เซน่อล - สเปอร์ส      
22.00 น. เบอร์มิงแฮม - เชลซี    
22.00 น. โบลตัน - นิวคาสเซิ่ล   
22.00 น. แบล็คพูล - วูล์ฟแฮมป์ตัน  
22.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - วีแกน        
22.00 น. เวสต์บรอมวิช - สโต๊ค ซิตี้  
00.30 น. ลิเวอร์พูล - เวสต์แฮม